13
เรื่องสุมนาเทวี
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเชตวันกรุงสาวัตถี ได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 18 โดยปรารภนางสุมนาเทวี
ธิดาคนเล็กของอนาถบิณฑิกเศรษฐี
ในกรุงสาวัตถี
ที่บ้านของท่านอนาถบิณฑอกเศรษฐีและที่บ้านของนางวิสาขาจะมีพระสงฆ์ได้รับนิมนต์ไปฉันภัตตาหารวันละ
2000 รูปมิได้ขาด
ที่บ้านของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
คนที่ทำหน้าที่ควบคุมงานถวายภัตตาหารพระสงฆ์คนแรกได้แก่ธิดาคนโตของท่านเศรษษฐี ต่อมาเมื่อธิดาคนโตออกเรือนแล้วก็ให้ธิดาคนรองรับผิดชอบ
พอธิดาคนรองออกเรือนก็ให้ธิดาคนสุดท้องคือนางสุมนาเทวีรับผิดชอบ
พี่สาวทั้งสองคนของนางสุมนาได้ฟังพระธรรมเทศนาจนได้บรรลุพระโสดาบันขณะที่ทำหน้าที่ถวายอาหารแก่ภิกษุสงฆ์ ส่วนนางสุมนาเทวีก้าวหน้าไปกว่าพี่สาวคือสามารถบรรลุพระสกทาคามี
ต่อมานางสุมนาเทวีเกิดป่วยหนัก เมื่อใกล้จะสิ้นใจได้ขอให้คนไปเชิญบิดามาหา
เมื่อท่านเศรษฐีมาแล้วนางสุมนาเทวีได้เรียกบิดาว่า “น้องชาย”
จากนั้นไม่นานก็ได้สิ้นใจตาย
ข้างเศรษฐีเกิดความสงสัยและเกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งที่ถูกธิดาเรียกว่า
“น้องชาย” เพราะเข้าใจว่าธิดาในเวลาจะสิ้นใจตายไม่สามารถควบคุมสติสัมปชัญญะถึงกับเพ้อออกมาเช่นนี้
ดังนั้นเศรษฐีจึงไปเฝ้าพระศาสดาแล้วนำเรื่องนี้ไปทูลถาม
พระศาสดาได้ตรัสกับเศรษฐีว่านางสุมนาเทวีมิได้ขาดสติสัมปชัญญะก่อนที่จะขาดใจตายแต่อย่างใด นางยังมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ พระศาสดาทรงอธิบายว่าที่นางสุมนาเทวีเรียกบิดาของนางว่า “น้องชาย”นั้น
ก็เพราะนางได้บรรลุมรรคผลสูงกว่าบิดา
คือขณะที่บิดาของนางบรรลุพระโสดบันนางเองบรรลุพระสกทาคามี
และพระศาสดายังได้ตรัสบอกเศรษฐีด้วยว่านางสุมนาเทวีได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 18
ว่า
อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ
กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ
ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโตฯ
คนที่ทำดีไว้แล้ว ย่อมบันเทิงในโลกทั้งสอง
คือบันเทิงในโลกนี้ และบันเทิงในโลกหน้า
เขาย่อมบันเทิงว่าเราได้ทำบุญไว้แล้ว
เมื่อไปสู่สุคติภพ ยิ่งบันเทิงมากขึ้น.
ชนเป็นอันมาก บรรลุโสดาปัตติผลเป็นต้น
พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แก่มหาชน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น