วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ภิกขุวรรค:05.เรื่องภิกษุคบภิกษุผู้เป็นฝักฝ่ายผิดรูปใดรูปหนึ่ง



05. เรื่องภิกษุคบภิกษุผู้เป็นฝักฝ่ายผิดรูปใดรูปหนึ่ง

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน  ทรงปรารภภิกษุผู้คบภิกษุผู้เป็นฝักฝ่ายผิดรูปใดรูปหนึ่ง  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  สลาภํ  นาติมญฺเญยฺย  เป็นต้น

ในกาลครั้งหนึ่ง  ภิกษุรูปหนึ่ง รับคำเชิญจากภิกษุที่เป็นพวกเดียวกับพระเทวทัต ให้ไปพักด้วย  และได้พักอยู่ที่นั่น 2-3 วัน  หลังจากกลับมาอยู่วัดเดิมแล้ว  ภิกษุอื่นๆได้นำเรื่องนี้ขึ้นกราบทูลพระศาสดาว่า ภิกษุรูปนี้ไปสมาคมกับภิกษุที่เป็นพวกของพระเทวทัต   ถึงขนาดไปพักอยู่ที่วัดของพระเทวทัตเป็นเวลา 2-3  วัน  ไปฉัน  ไปจำวัตรกับภิกษุพวกนั้นด้วย   พระศาสดามีรับสั่งให้ภิกษุนั้นมาเฝ้า  ทูลถามว่าเป็นจริงอย่างที่ภิกษุทั้งหลายกล่าวหาหรือไม่ ภิกษุนั้นกราบทูลว่าได้ไปพักที่วัดแห่งนั้นเป็นเวลา  2-3 วันจริง  แต่ไม่ได้ยินดีคำสอนในลัทธิของพระเทวทัต

พระศาสดาได้ทรงตำหนิภิกษุนั้น  และได้ทรงชี้ว่าพฤติกรรมเช่นนั้นส่อไปในทางที่จะทำให้ผู้อื่นเชื่อว่าเป็นศิษย์ของพระเทวทัต  และตรัสว่า  แม้เธอจะไม่ชอบใจลัทธิคำสอนของพระเทวทัตก็จริง  แต่การที่เธอไปที่นั่นส่อแสดงว่าเธอเป็นสาวกของพระเทวทัต     และได้ทรงนำเรื่องในมหิฬามุขชาดกมาเล่า  แล้วตรัสว่า   ภิกษุทั้งหลาย  ธรรมดาภิกษุ  พึงเป็นผู้ยินดีด้วยลาภของตนเท่านั้น  การปรารถนาลาภของคนอื่นไม่สมควร  เพราะบรรดาฌาน   วิปัสสนา  มรรค  และ  ผลทั้งหลาย  แม้ธรรมสักอย่างหนึ่ง  ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ปรารถนาลาภของผู้อื่น  แต่คุณชาติทั้งหลายมีฌานเป็นต้น  ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ยินดีด้วยลาภของตนเท่านั้น

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท สองพระคาถานี้ว่า

สลาภํ  นาติมญเญยฺย
นาญฺเญสํ  ปิหยํ  จเร
อญฺเญสํ  ปิหยํ  ภิกฺขุ
สมาธึ  นาธิคจฺฉติ 

อปฺปลาโภปิ  เจ  ภิกขุ
สลาภํ  นาติมญฺญติ
ตํ เว เทวา  ปสํสนฺติ
สุทธาชีวํ  อตนฺทิตํ ฯ

ภิกษุไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน
ไม่ควรเที่ยวปรารถนาลาภของผู้อื่น
ภิกษุเมื่อปรารถนาลาภของผู้อื่น
ย่อมไม่ประสบสมาธิ.

ถ้าภิกษุแม้เป็นผู้มีลาภน้อย
ก็ไม่ดูหมิ่นลาภของตน
เทวดาทั้งหลาย  ย่อมสรรเสริญภิกษุนั้นแล
ว่าผู้มีอาชีพหมดจด  ไม่เกียจคร้าน.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง   ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น