35.เรื่องภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่
2
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ 2 ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า หิตฺวา
รติญฺจ เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง
ดารานักแสดงคนหนึ่ง
ออกตระเวนไปเปิดแสดงร้องรำทำเพลงไปตามถนนหนทาง แล้วได้มีโอกาสได้ไปฟังธรรมของพระศาสดา
หลังจากได้ฟังธรรมแล้วก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุ และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
เมื่อพระอดีตดารานักแสดงนั้นออกไปบิณฑบาตกับภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ภิกษุทั้งหลายเห็นบุตรของดารานักแสดงคนหนึ่ง
จึงได้ถามพระอดีตดารานักแสดงนั้นว่า
ยังมีความเยื่อใยในอาชีพการแสดงอยู่หรือไม่ เมื่อพระอดีตดารานักแสดงตอบว่า “ไม่มีแล้ว”
จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดาว่า พระอดีตดารานี้อวดอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์ด้วยความไม่จริง พระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย
บุตรของเราละความยินดีและความไม่ยินดีได้แล้ว ดำรงอยู่” จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
หิตฺวา
รติญจ อรติญฺจ
สีติภูตํ
นิรูปธึ
สพฺพโลกาภิภุ
วีรํ
ตมหํ
พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
เราเรียกบุคคลนั้น
ซึ่งละความยินดีและความไม่ยินดีได้แล้ว
ผู้เย็น
ไม่มีอุปธิ
ครอบงำโลกทั้งปวง ผู้แกล้วกล้า
ว่า
เป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ขนเป็นอันขาด
บรรลุอริยผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น