02.เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อนุปุพฺเพน
เมธาวี เป็นต้น
วันหนึ่ง
มีพราหมณ์ผู้หนึ่ง
เมื่อออกไปนอกบ้านแต่เช้าตรู่
แลเห็นภิกษุหมู่หนึ่งอยู่ในหนึ่งห่มจีวร
กำลังเตรียมตัวจะออกไปบิณฑบาต
ในที่ตรงนั้นมีหญ้าขึ้นและมีน้ำค้างมาจับที่ยอดหญ้า ชายจีวรของภิกษุทั้งหลายจึงปียกน้ำค้าง ในวันรุ่งขึ้นเขาจึงถือจอบมาจัดการถากหญ้าในบริเวณนั้นจนเตียนหมด
ในเวลาต่อมาเขาเห็นภิกษุเหล่านั้นห่มจีวรและชายจีวรเปื้อนฝุ่นจึงได้นำทรายมาเกลี่ยลงในบริเวณนั้น พออีกวันหนึ่งเห็นภิกษุเหล่านั้นขณะห่มจีวรมีเหงื่อไหลโซมกายเพราะวันนั้นแดดร้อนจัด เขาก็ได้มาทำซุ้มเพื่อใช้ป้องกันแดดแก่ภิกษุเหล่านั้น
ในเวลาต่อมามีฝนตกเห็นภิกษุเหล่านั้นจีวรเปียกฝน
ก็ได้มาสร้างศาลาหลังหนึ่งขึ้นตรง ณ บริเวณนั้น
เมื่อสร้างศาลาเสร็จแล้ว
ก็ได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระศาสดาเป็นประมุขมาฉันภัตตาหารในศาลานั้น เมื่อเสร็จภัตตกิจของพระศาสดาและภิกษุสงฆ์แล้ว
เขาก็ได้กราบทูลเรื่องราวของความคิดและการกระทำของตนตั้งแต่ต้นตามลำดับให้พระศาสดาได้ทรงทราบ และกราบทูลให้ทรงประทานอนุโมทนกถา พระศาสดาจึงตรัสว่า “พราหมณ์ ธรรมดาบัณฑิตทั้งหลาย ทำกุศลอยู่คราวละน้อยๆทุกขณะ ย่อมนำมลทินคืออกุศล ของตนออกโดยลำดับทีเดียว”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท
พระคาถานี้ว่า
อนุปุพฺเพน
เมธาวี
โถกํ
โถกํ ขเณ ขเณ
กมฺมาโร
รชตสฺเสว
นิทฺทเม
มลมตฺตโน.
ผู้มีปัญญา(ทำกุศลอยู่)คราวละน้อยๆ
ทุกๆขณะ
โดยลำดับ
พึงกำจัดมลทินของตนได้
เหมือนช่างทองปัดเป่าสนิททอง ฉะนั้น ฯ
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง พราหมณ์บรรลุโสดาปัตติผล พระธรรมเทศนามีประโยชน์แม้แก่มหาชน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น