วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558

พราหมณวรรค:28.เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ



28. เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภพระมหาโมคคัลลานเถระ  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  ยสฺสาลยา    เป็นต้น

ในกาลครั้งหนึ่ง  พระโมคคัลลานเถระ พร้อมด้วยภิกษุบริวาร  500 รูป  ได้ไปเข้าจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่ง  ใกล้หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง   เมื่อออกพรรษาปวารณาแล้ว   พระโมคคัลลาถเถระต้องการมอบจีวรแก่ภิกษุหนุ่มและสามเณรทั้งหลาย   ท่านจึงบอกกับภิกษุทั้งหลายว่า  หากมีคนมาถวายจีวร  ก็ให้ส่งจีวรเหล่านั้นไปให้ท่าน  หรือว่าแจ้งได้ท่านได้รู้   แล้วก็ออกจากวัดแห่งนั้นไปเข้าเฝ้าพระศาสดา  ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมสภาว่า  ถึงทุกวันนี้ ตัณหาของพระโมคคัลานเถระ   ชะรอยจะยังมีอยู่  เพราะพระเถระสั่งไว้แบบนั้น  พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามถึงหัวข้อสนทนานั้น  แล้วตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย  ตัณหา  ย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา  แต่เธอกล่าวอย่างนั้น ก็ด้วยคิดว่า พวกมนุษย์จะได้ทำบุญกัน  และพวกภิกษุหนุ่มและสามเณรจะได้มีจีวรใช้  จากนั้น  พระศาสดาตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

ยสฺสาลยา    วิชฺชนฺติ
อญฺญาย  อกถํกถี
อมโตคธํ  อนุปฺปตฺตํ
ตมหํ  พฺรูมิ  พฺราหฺมณํ ฯ

ความอาลัยของบุคคลใดไม่มี
บุคคลใดรู้ชัดแล้ว
เป็นผู้ไม่มีความสงสัยเป็นเหตุกล่าวว่าย่างไร
เราเรียกบุคคลนั้น
ผู้หยั่งลงอมตะ  ตามบรรลุแล้ว
ว่า  เป็นพราหมณ์.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง   ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น