วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

นิรยวรรค:09.เรื่องสาวกเดียรถีย์



09.เรื่องสาวกเดียรถีย์

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภพวกสาวกเดียรถีย์   ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  อวชฺเช  เป็นต้น

พวกสาวกของอัญญเดียรถีย์  (คนศาสนาอื่น)  ไม่ต้องการให้ลูกของพวกตนไปมั่วสุมกับลูกสาวกของพระพุทธเจ้า   พวกเขาได้พร่ำสอนลูกทั้งหลายว่า สมณะพวกศากยบุตร  พวกเจ้าไม่พึงไหว้  แม้วิหารของสมณะเหล่านั้น  พวกเจ้าก็ไม่พึงเข้าไป  วันหนึ่ง  ขณะที่ลูกของอัญญเดียรถีย์เหล่านั้นกำลังเล่นอยู่กับลูกของชาวพุทธอยู่นั้น   ก็เกิดหิวน้ำขึ้นมา   ด้วยเหตุที่ลูกของอัญญเดียรถีย์ถูกพร่ำสอนไม่ให้เข้าไปในวัดของชาวพุทธ  พวกเขาจึงขอร้องให้เด็กชาวพุทธคนหนึ่งไปนำน้ำมาให้พวกเขาดื่ม  เด็กชาวพุทธคนนั้นก็ได้เข้าไปถวายบังคมพระศาสดาและกราบทูลขอน้ำจะเอาไปให้พวกลูกอัญญเดียรถีย์ดื่ม โดยได้กราบทูลเหตุผลว่า  เด็กเหล่านั้นมารดาบิดาห้ามเข้ามาในวัดพระเชตวัน  พระศาสดาตรัสว่า เจ้าดื่มน้ำนี้เสียก่อน  แล้วกลับไปบอกให้พวกเด็กเหล่านั้นมาดื่มน้ำที่นี่เมื่อเด็กเหล่านั้นมาดื่มน้ำแล้ว    พระศาสดาได้ตรัสธรรมกถาที่เหมาะกับนิสัยของพวกเขา  ทำให้พวกเขามีศรัทธาในพระรัตนตรัย    คือ พระพุทธ พระธรรม  พระสงฆ์  และทรงให้รับศีล   เมื่อเด็กพวกนี้กลับไปบ้าน  ก็ได้บอกบิดามารดาของพวกตนว่าได้ไปพบพระศาสดาในวัดพระเชตวันมา   และพระศาสดาได้ประทานพระรัตนตรัยและศีลเสียอีกด้วย    มารดาบิดาของพวกเด็กเหล่านั้น  ต่างเดือดเนื้อร้อนใจ  ร้องไห้ฟูมฟายน้ำตา  ว่า  ลูกของพวกเรา  กลายเป็นคนมีทิฏฐิวิบัติเสียแล้วพวกเพื่อนบ้านได้มาพูดปลอบใจ   ให้หยุดร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ  และแนะนำให้พาเด็กเหล่านั้นไปวัดพระเชตวัน  เพื่อมอบตัวแด่พระศาสดา   เมื่อเด็กเหล่านั้นมาพร้อมหน้าพร้อมตาพร้อมด้วยมารดาบิดาของพวกเขาแล้ว    พระศาสดาทรงตรวจดูอุปนิสัยความสามารถที่จะบรรลุธรรมของพวกเด็กนั้น  ก็ได้แสดงธรรม  ด้วยการตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

อวชฺเช  วชฺชมติโน
วชฺเช  อวชฺชทสฺสิโน
มิจฺฉาทิฏฐิสมาทานา
สตฺตา  คจฺฉนฺติ  สุคตึ 

วชฺชญฺจ  วชฺชโต  ญตฺวา
อวชฺชญฺจ  อวชฺชโต
สมฺมาทิฏฺฐิสมาทานา
สตฺตา  คจฺฉนฺติ  สุคฺคตึ ฯ

สัตว์ทั้งหลาย   ผู้มีความรู้ว่ามีโทษในธรรมที่หาโทษมิได้
มีปกติเห็นว่าหาโทษมิได้ในธรรมที่มีโทษ
เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งมิจฉาทิฏฐิ  ย่อมไปสู่ทุคติ.

สัตว์ทั้งหลาย  รู้ธรรมที่มีโทษโดยความเป็นธรรมมีโทษ
รู้ธรรมที่หาโทษมิได้  โดยความเป็นธรรมหาโทษมิได้
เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งสัมมาทิฏฐิ
ย่อมไปสู่สุคติ.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  คนเหล่านั้นทั้งหมด  ดำรงอยู่ในสรณะ 3  แล้ว  ฟังธรรมอื่นๆอีกอยู่  ก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น