วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2558

ธัมมัฏฐวรรค:05.เรื่องภิกษุมากรูป



05.เรื่องภิกษุมากรูป

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภภิกษุมากรูป  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า    วากฺกรณมตฺเตน  เป็นต้น
ในวัดนั้น  ภิกษุหนุ่มและสามเณรน้อย  จะทำการดูแลอาจารย์ผู้บอกธรรมของตน  ด้วยกิจต่างๆ เช่น การย้อมจีวรเป็นต้น   พระเถระพวกหนึ่งสังเกตเห็นวัตรปฏิบัติเหล่านี้  ก็เกิดความริษยา  และได้คิดแผนอย่างหนึ่งขึ้นมาเพื่อจะให้เกิดประโยชน์แก่พวกตนบ้าง  โดยแผนนี้ก็คือ  พวกพระเถระเหล่านี้จะกราบทูลแนะนำพระศาสดาว่าให้ออกกฎว่า  พวกภิกษุหนุ่มและสามเณรน้อย  แม้ว่าจะทำวัตรปฏิบัติแก่อาจารย์ของตนแล้ว  ก็จะต้องมาขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากพระเถระเหล่านี้ด้วย   เมื่อพระเถระเหล่านี้ไปกราบทูลเรื่องนี้แด่พระศาสดา  พระศาสดาทรงทราบวัตถุประสงค์แอบแฝงของพระเถระเหล่านั้น  ได้ตรัสว่า  เราไม่เรียกพวกเธอว่า คนดี  เพราะเหตุสักว่าพูดจัดจ้าน  ส่วนผู้ใด  ตัดธรรมมีความริษยาเป็นต้นเหล่านี้ได้แล้ว  ด้วยอรหัตตมรรค  ผู้นี้แหละชื่อว่าคนดี

พระศาสดา  ได้ตรัสพระธรรมบท  สองพระคาถานี้ว่า

  วากฺกรณมตฺเตน
วณฺณโปกฺขรตาย  วา
สาธุรูโป  นโร  โหติ
อิสฺสุกี  มจฺฉรี  สโฐ ฯ

ยสฺส  เจตํ  สมุจฺฉินฺนํ
มูลฆจฺฉํ  สมูหตํ
  วนฺตโทโส  เมธาวี
สาธุรูโปติ  วุจฺจติ 

นระ  ผู้มีความริษยา  มีความตระหนี่  โอ้อวด
จะชื่อว่าคนดี  เพราะเหตุสักว่าทำการพูดจัดจ้าน
หรือเพราะมีผิวกายงามก็หาไม่.

ส่วนผู้ใด  ตัดความริษยาเป็นต้นได้ขาดแล้ว
ถอนขึ้นให้รากขาด
ผู้นั้น  มีโทสะอันคายแล้ว  มีปัญญา
เราเรียกว่า  คนดี.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง   ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย   มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น