39. เรื่องเทวหิตพราหมณ์
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภปัญหาของเทวหิตพราหมณ์
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ปุพฺเพนิวาสํ เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง
พระศาสดา
ทรงอาพาธด้วยพระวาโย(ลม)กำเริบ
ทรงส่งพระอุปวานเถระไปขอน้ำร้อนจากเทวหิตพราหมณ์
พราหมณ์นั้นมีความดีใจมากที่นานครั้งจะได้มีโอกาสถวายสิ่งของแด่พระศาสดา ดังนั้นนอกจากจะถวายน้ำร้อนมาแล้ว
พราหมณ์นั้นก็ยังถวายน้าอ้อยมาพร้อมกันด้วย เมื่อกลับมาถึงวัดพระเชตวันแล้ว หลังจากที่ทรงสงน้ำแล้ว พระอุปวานะก็ได้น้อมถวายน้ำร้อนและน้ำอ้อย
เมื่อพระศาสดาทรงเสวยของทั้งสองอย่างเข้าไปแล้วอาการพระวาโยกำเริบก็หายไป ต่อมาพราหมณผู้นั้นได้มาเฝ้าพระศาสดาและกราบทูลถามว่า “บุคคลควรให้ไทยธรรมในบุคคลไหน ?
ไทยธรรมวัตถุอันบุคคลให้ในบุคคลไหน ?
จึงมีผลมาก
ทักษิณาของบุคคลผู้บูชาอยู่อย่างไรเล่า ? จะสำเร็จได้อย่างไร ?”
พระศาสดาตรัสว่า “ไทยธรรมวัตถุ ที่บุคคลให้แก่พราหมณ์ผู้เช่นนี้ ย่อมมีผลมาก”
เมื่อจะตรัสบอกบุคคลผู้เป็นพราหมณ์แก่พราหมณ์นั้น จึงตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
ปุพฺเพนิวาสํ
เย เวทิ
สคฺคาปายญฺจ
ปสฺสติ
อโถ
ชาติกฺขยํ ปตฺโต
อภิญฺญา
โวสิโต มุนิ
สพฺพโวสิตโวสานํ
ตมหํ
พฺรูมิ พฺราหฺมณํ ฯ
บุคคลรู้ขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อน
ทั้งเห็นสวรรค์และอบาย
อนึ่ง
บรรลุความสิ้นไปแห่งชาติ
เสร็จกิจแล้ว
เพราะรู้ยิ่ง
เป็นมุนี
เราเรียกบุคคลนั้น
ซึ่งมีพรหมจรรย์อันอยู่เสร็จสรรพแล้ว
ว่าเป็นพราหมณ์.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก
บรรลุอริยผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น แม้พราหมณ์มีจิตเลื่อมใส ตั้งอยู่ในสรณะสาม
ประกาศตนเป็นอุบาสกแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น