วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

พราหมณวรรค:39.เรื่องเทวหิตพราหมณ์



39.  เรื่องเทวหิตพราหมณ์

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภปัญหาของเทวหิตพราหมณ์  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  ปุพฺเพนิวาสํ  เป็นต้น

ในสมัยหนึ่ง  พระศาสดา  ทรงอาพาธด้วยพระวาโย(ลม)กำเริบ  ทรงส่งพระอุปวานเถระไปขอน้ำร้อนจากเทวหิตพราหมณ์   พราหมณ์นั้นมีความดีใจมากที่นานครั้งจะได้มีโอกาสถวายสิ่งของแด่พระศาสดา  ดังนั้นนอกจากจะถวายน้ำร้อนมาแล้ว  พราหมณ์นั้นก็ยังถวายน้าอ้อยมาพร้อมกันด้วย   เมื่อกลับมาถึงวัดพระเชตวันแล้ว   หลังจากที่ทรงสงน้ำแล้ว  พระอุปวานะก็ได้น้อมถวายน้ำร้อนและน้ำอ้อย   เมื่อพระศาสดาทรงเสวยของทั้งสองอย่างเข้าไปแล้วอาการพระวาโยกำเริบก็หายไป  ต่อมาพราหมณผู้นั้นได้มาเฝ้าพระศาสดาและกราบทูลถามว่า  บุคคลควรให้ไทยธรรมในบุคคลไหน ?  ไทยธรรมวัตถุอันบุคคลให้ในบุคคลไหน ?  จึงมีผลมาก   ทักษิณาของบุคคลผู้บูชาอยู่อย่างไรเล่า ? จะสำเร็จได้อย่างไร ?”  พระศาสดาตรัสว่า ไทยธรรมวัตถุ  ที่บุคคลให้แก่พราหมณ์ผู้เช่นนี้  ย่อมมีผลมาก

เมื่อจะตรัสบอกบุคคลผู้เป็นพราหมณ์แก่พราหมณ์นั้น  จึงตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

ปุพฺเพนิวาสํ  เย  เวทิ
สคฺคาปายญฺจ  ปสฺสติ
อโถ  ชาติกฺขยํ  ปตฺโต
อภิญฺญา  โวสิโต  มุนิ
สพฺพโวสิตโวสานํ
ตมหํ  พฺรูมิ  พฺราหฺมณํ 

บุคคลรู้ขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อน
ทั้งเห็นสวรรค์และอบาย
อนึ่ง  บรรลุความสิ้นไปแห่งชาติ
เสร็จกิจแล้ว  เพราะรู้ยิ่ง
เป็นมุนี  เราเรียกบุคคลนั้น
ซึ่งมีพรหมจรรย์อันอยู่เสร็จสรรพแล้ว
ว่าเป็นพราหมณ์.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดาปัตติผลเป็นต้น แม้พราหมณ์มีจิตเลื่อมใส ตั้งอยู่ในสรณะสาม ประกาศตนเป็นอุบาสกแล้ว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น