วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ภิกขุวรรค:10.เรื่องพระนังคลกูฏเถระ



10.เรื่องพระนังคลกูฏเถระ

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภพระนังคลกูฏเถระ  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  อตฺตนา  โจทยตฺตานํ  เป็นต้น

พระนังคลกูฏเถระ  เมื่อสมัยยังเป็นฆราวาส  เป็นชาวนาผู้ยากไร้  มีสมบัติส่วนตัวอยู่ 2 ชิ้น  คือ  ผ้าเตี่ยว 1  ผืน  และไถ  1 คัน  เมื่อใดที่ท่านเกิดความเบื่อหน่ายเพศบรรพชิต  อยากจะสึกออกไปเป็นฆราวาส  ท่านก็จะไปหยังต้นไม้ที่ท่านเก็บผ้าเตี่ยวและไถนั้นไว้  และให้โอวาทตัวเอง จิตใจก็เกิดความสบาย  หายความกระสันอยากสึก  ครั้งสุดท้ายท่านไปยังต้นไม้นั้น  ยึดเอาผ้าเตี่ยวและไถมาเป็นอารมณ์พิจารณาพระกัมมัฏฐาน  กระทั่งได้บรรลุเป็นพระอรหันต์  หลังจากนั้นท่านก็ไม่ได้ไปที่ต้นไม้ต้นอีกเลย  พวกภิกษุสังเกตเห็นท่านไม่เทียงไล้เทียวขื่อไปที่ต้นไม้นั้นอีก  เกิดความสงสัยจึงได้สอบถามถึงสาเหตุที่ท่านไม่ไปที่ต้นไม้ต้นนั้นว่า ท่านไม่ไปหาอาจารย์ของท่านอีกหรือท่านตอบว่า เราไปหาอาจารย์เมื่อมีความจำเป็น  เดี๋ยวนี้ไม่มีความจำเป็นอย่างนั้นแล้ว  ภิกษุทั้งหลายคิดว่าท่านอวดอ้างว่าตนเป็นพระอรหันต์  จึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดา   และพระศาสดาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย    นังคลกูฏะบุตรของเรา  เตือนตนด้วยตนเอง  แล้วจึงถึงที่สุดแห่งกิจบรรพชิต

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท  สองพระคาถานี้ว่า

อตฺตนา  โจทยตตานํ
ปฏิมาเส  อตฺตมตฺตนา
โส  อตฺตคุตฺโต  สติมา
สุขํ  ภิกฺขุ  วิหาหิสิ 

อตฺตา  หิ  อตฺตโน  นาโถ
อตฺตา  หิ  อตฺตโน  คติ
ตสฺมา  สํยม  อตฺตานํ
อสฺสํ  ภทฺรํว  วาณิโช 

เธอจงเตือนตนด้วยตน
จงพิจารณาดูตนนั้นด้วยตน
ภิกษุ  เธอนั้น  มีสติ  ปกครองตนได้แล้ว
จักอยู่สบาย.

ตนแหละ  เป็นนาถะของตน
ตนแหละ  เป็นคติของตน
เพราะฉะนั้น  เธอจงสงวนตน
ให้เหมือนอย่างพ่อค้าม้าสงวนม้าตัวเจริญ ฉะนั้น.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น