10.เรื่องพระนังคลกูฏเถระ
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภพระนังคลกูฏเถระ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อตฺตนา โจทยตฺตานํ
เป็นต้น
พระนังคลกูฏเถระ เมื่อสมัยยังเป็นฆราวาส เป็นชาวนาผู้ยากไร้ มีสมบัติส่วนตัวอยู่ 2
ชิ้น คือ
ผ้าเตี่ยว 1 ผืน
และไถ 1
คัน
เมื่อใดที่ท่านเกิดความเบื่อหน่ายเพศบรรพชิต อยากจะสึกออกไปเป็นฆราวาส
ท่านก็จะไปหยังต้นไม้ที่ท่านเก็บผ้าเตี่ยวและไถนั้นไว้ และให้โอวาทตัวเอง จิตใจก็เกิดความสบาย หายความกระสันอยากสึก ครั้งสุดท้ายท่านไปยังต้นไม้นั้น
ยึดเอาผ้าเตี่ยวและไถมาเป็นอารมณ์พิจารณาพระกัมมัฏฐาน กระทั่งได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
หลังจากนั้นท่านก็ไม่ได้ไปที่ต้นไม้ต้นอีกเลย
พวกภิกษุสังเกตเห็นท่านไม่เทียงไล้เทียวขื่อไปที่ต้นไม้นั้นอีก เกิดความสงสัยจึงได้สอบถามถึงสาเหตุที่ท่านไม่ไปที่ต้นไม้ต้นนั้นว่า
“ท่านไม่ไปหาอาจารย์ของท่านอีกหรือ” ท่านตอบว่า
“เราไปหาอาจารย์เมื่อมีความจำเป็น เดี๋ยวนี้ไม่มีความจำเป็นอย่างนั้นแล้ว”
ภิกษุทั้งหลายคิดว่าท่านอวดอ้างว่าตนเป็นพระอรหันต์ จึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระศาสดา และพระศาสดาตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย นังคลกูฏะบุตรของเรา เตือนตนด้วยตนเอง แล้วจึงถึงที่สุดแห่งกิจบรรพชิต”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท
สองพระคาถานี้ว่า
อตฺตนา
โจทยตตานํ
ปฏิมาเส
อตฺตมตฺตนา
โส
อตฺตคุตฺโต สติมา
สุขํ
ภิกฺขุ วิหาหิสิ ฯ
อตฺตา
หิ อตฺตโน นาโถ
อตฺตา
หิ อตฺตโน คติ
ตสฺมา
สํยม อตฺตานํ
อสฺสํ
ภทฺรํว วาณิโช ฯ
เธอจงเตือนตนด้วยตน
จงพิจารณาดูตนนั้นด้วยตน
ภิกษุ
เธอนั้น มีสติ ปกครองตนได้แล้ว
จักอยู่สบาย.
ตนแหละ
เป็นนาถะของตน
ตนแหละ
เป็นคติของตน
เพราะฉะนั้น
เธอจงสงวนตน
ให้เหมือนอย่างพ่อค้าม้าสงวนม้าตัวเจริญ
ฉะนั้น.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก
บรรลุอริยผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น