12.เรื่องสุภัททปริพาชก
พระศาสดา
ผทมแล้วบนพระแท่นเป็นที่ปรินิพพาน
ในสาลวัน
ของเจ้ามัลละทั้งหลาย
อันเป็นที่แวะพัก
ใกล้พระนครกุสินารา
ทรงปรารภปริพาชกชื่อว่า
สุภัททะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อากาเสว
ปทํ นตฺถิ เป็นต้น
สุภัททปริพพาชกผู้นี้ พำนักอยู่ที่เมืองกุสินารา ในอดีตชาตินั้น เมื่อน้องชายของเขา
ถวายทานที่เกี่ยวข้องกับข้าวกล้าในนาถึง 9 ครั้ง
แต่เขามัวแต่โอเอ้ไม่ยอมถวายทานในช่วงแรกๆ
แต่ได้มาถวายในช่วงท้าย
ทำให้ในชาตินี้เขาไม่ได้เข้าเฝ้าพระศาสดาในช่วงปฐมโพธิกาล และมัชฌิมโพธิกาล แต่ได้มาเข้าเฝ้าพระศาสดาในช่วงปัจฉิมโพธิกาล
สุภัททปริพาชก
เมื่อได้ข่าวว่าพระศาสดาจะเสด็จดับขันธปริพพาน จึงได้เข้าเฝ้าพระศาสดา กราบทูลถามปัญหา 3
ข้อ คือ 1.
รอยเท้าในอากาศ มีหรือไม่
2. ชื่อว่าสมณะภายนอกแต่พุทธศาสนามีหรือไม่ และ 3. สังขารทั้งหลายชื่อว่าเที่ยง มีหรือไม่
พระศาสดา
จึงได้ตรัสพระธรรมบท
สองพระคาถานี้ว่า
อากาเสว
ปทํ นตฺถิ
สมโณ
นตฺถิ พาหิโร
ปปญฺจาภิรตา
ปชา
นิปฺปปญฺจา
ตถาคตา ฯ
อากาเสว
ปทํ นตฺถิ
สมโณ
นตฺถิ พาหิโร
สงฺขารา
สสฺสตา นตฺถิ
นตฺถิ
พุทฺธานมิญฺชิตํ ฯ
รอยเท้าในอากาศนั่นเทียว ไม่มี
สมณะภายนอก
ไม่มี
หมู่สัตว์เป็นผู้ยินดียิ่งแล้วในธรรมเครื่องเนิ่นช้า
พระตถาคตทั้งหลาย หาธรรมเครื่องเนิ่นช้ามิได้.
รอยเท้าในอากาศเทียว ไม่มี
สมณะภายนอกไม่มี
สังขารทั้งหลาย ชื่อว่าเที่ยง ไม่มี
กิเลสเครื่องหวั่นไหว ไม่มีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง สุภัททปริพาชก
บรรลุอนาคามิผล พระธรรมเทศนา มีประโยชน์แม้แก่บริษัทผู้มาประชุมกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น