08.เรื่องมาร
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ ณ
กุฎีซึ่งตั้งอยู่ในป่าที่ข้างป่าหิมพานต์
ทรงปรารภมาร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อตฺถมฺหิ เป็นต้น
ครั้งหนึ่ง
ขณะที่พระศาสดาประทับอยู่ใกล้เทือกเขาหิมาลัย ทรงพบว่า
ประชาชนจำนวนมากถูกเบียดเบียนด้วยการลงอาชญา จากกษัตริย์ผู้มิได้ตั้งอยู่ในธรรม ทรงดำริว่า
จะเป็นไปได้ไหมที่หากพระองค์เป็นกษัตริย์จะ “ปกครองโดยธรรม
ไม่เบียดเบียนเอง ไม่ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ไม่ชนะเอง
ไม่ให้ผู้อื่นชนะ
ไม่เศร้าโศกเอง
ไม่ให้ผู้อื่นเศร้าโศก” มารล่วงรู้ถึงพระดำริของพระศาสดา
จึงวางแผนจะชักนำให้พระศาสดาเป็นพระราชาปกครองแผ่นดิน
โดยการเสนอแนะวิธีการต่างๆที่สามารถนำมาใช้ในการปกครอง พระศาสดาได้ตรัสกับมารนั้นว่า “มารผู้มีบาป
โอวาทของท่านเป็นอย่างหนึ่ง
โอวาทของเราก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ท่านและเราปรึกษาธรรมกันไม่ได้
เพราะเราสอนอย่างนี้”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท
สามพระคาถานี้ว่า
อตฺถมฺหิ
ชาตมฺหิ สุขา สหายา
ตุฏฺฐี
สุขา ยา อิตรีตเรน
ปุญฺญํ
สุขํ ชีวิตสงฺขยมฺหิ
สพฺพสฺส
ทุกขสฺส สุขํ ปหานํ
ฯ
สุขา
มตฺเตยฺยตา โลเก
อโถ
เปตฺเตยฺยตา สุขา
สุขา
สามญฺญตา โลเก
อโถ
พฺรหฺมญฺญตา สุขา ฯ
สุขํ
ยาว ชรา สีลํ
สุขา
สทฺธา ปติฏฺฐิตา
สุโข
ปญฺญาปฏิลาโภ
ปาปานํ
อกรณํ สุขํ ฯ
เมื่อความต้องการเกิดขึ้น
สหายทั้งหลายนำความสุขมาให้
ความยินดีด้วยปัจจัยนอกนี้ๆ(ตามมีตามได้
นำความสุขมาให้
บุญนำความสุขมาให้ในขณะสิ้นชีวิต
การละทุกข์ทั้งปวงได้นำสุขมาให้.
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่มารดา นำความสุขมาให้ในโลก
อนึ่ง
ความเกื้อกูลแก่บิดา นำความสุขมาให้
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก
อนึ่ง
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พรหม
นำความสุขมาให้.
ศีลนำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา
ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว นำความสุขมาให้
การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้
การไม่ทำบาปทั้งหลาย นำความสุขมาให้.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่เทวดาเป็นอันมาก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น