วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ตัณหาวรรค:12.เรื่องอังกุรเทพบุตร



12.เรื่องอังกุรเทพบุตร

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่บนแท่นบัณฑุกัมพลศิลา  ทรงปรารภอังกุรเทพบุตร  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  ติณโทสานิ  เขตฺตานิ  เป็นต้น

ในกาลครั้งหนึ่ง   พระศาสดาเสด็จขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์   เพื่อแสดงพระอภิธรรมโปรดสันดุสิตเทวดา ซึ่งเป็นอดีตพุทธมารดา  ในระหว่างนั้น  มีเทวดาองค์หนึ่งนามว่าอินทกเทพบุตร อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ซึ่งเมื่อครั้งอยู่ในโลกมนุษย์  เทพองค์นี้ได้ถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระอนุรุทธเถระเพียงทัพพีเดียว  ซึ่งเป็นอาหารที่คนนำมาจะให้ตนรับประทาน   เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว  เขาได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  มีเทวสมบัติที่ยิ่งใหญ่  ในขณะเดียวกันนั้น   มีเทพอีกองค์หนึ่งนามว่า อังกุรเทพบุตร  อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกเหมือนกัน  ซึ่งเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ได้ถวายทานเป็นจำนวนมากและในหลายโอกาส กว่าอินทกเทพบุตร  แต่ปรากฏว่า  เทวสมบัติของอังกุรเทพบุตรมีความยิ่งใหญ่น้อยกว่าของอินทกเทพบุตร  ดังนั้น เมื่อพระศาสดาเสด็จสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์   อังกุรเทพบุตรจึงได้ทูลถามข้อแตกต่างระหว่างทานของตนกับของอินทกเทพบุตร  พระศาสดาตรัสว่า  อังกุระ  ชื่อว่าการเลือกให้ทาน  ย่อมควร  ทานของอินทกะนั้น  เป็นของมีผลมาก  ดังพืชที่หว่านดีแล้วในนาดี  อย่างนี้  แต่ท่านไม่ได้ทำอย่างนั้น  เพราะฉะนั้น  ทานของท่านจึงไม่มีผลมาก

พระศาสดาตรัสด้วยว่า บุคคลควรเลือกให้ทาน  ในเขตที่ตนให้แล้วจะมีผลมาก  เพราะการเลือกให้  พระสุคตทรงสรรเสริญแล้ว  ทานที่ให้ในท่านผู้เป็นทักขิไณยบุคคลในชีวโลกนี้  เป็นของมีผลมาก  เหมือนพืชที่หว่านในนาดี ฉะนั้น

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท   สี่พระคาถานี้ว่า

ติณโทสานิ  เขตฺตานิ 
ราคโทสา  อยํ  ปชา
ตสฺมา  หิ  วีตราเคสุ
ทินฺนํ  โหติ  มหปฺผลํ 

ติณโทสานิ  เขตฺตานิ 
โทสโทสา  อยํ  ปชา
ตสฺมา  หิ  วีตโทเสสุ
ทินฺนํ  โหติ  มหปฺผลํ 

ติณโทสานิ  เขตฺตานิ 
โมหโทสา  อยํ  ปชา
ตสฺมา  หิ  วีตโมเหสุ
ทินฺนํ  โหติ  มหปฺผลํ 

ติณโทสานิ  เขตฺตานิ 
อิจฉาโทสา  อยํ  ปชา
ตสฺมา  หิ  วีคติจฺเฉสุ
ทินฺนํ  โหติ  มหปฺผลํ 

นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นโทษ
หมู่สัตว์นี้ก็มีราคะเป็นโทษ
ฉะนั้นแล  ทานที่ให้ในท่านผู้ปราศจากราคะ
จึงเป็นของมีผลมาก.

นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นโทษ
หมู่สัตว์นี้ก็มีโทสะเป็นโทษ
ฉะนั้นแล  ทานที่ให้ในท่านผู้ปราศจากโทสะ
จึงเป็นของมีผลมาก.

นาทั้งหลาย  มีหญ้าเป็นโทษ
หมู่สัตว์นี้มีโมหะเป็นโทษ
ฉะนั้นแล  ทานที่ให้ในท่านผู้ปราศจากโมหะ
จึงเป็นของมีผลมาก.

นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นโทษ
หมู่สัตว์นี้ก็มีความอยากเป็นโทษ
ฉะนั้นแล  ทานที่ให้ในท่านผู้ปราศจากความอยาก
จึงเป็นของมีผลมาก.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  อังกุรเทพบุตร  และอินทกเทพบุตร  บรรลุโสดาปัตติผล  พระธรรมเทศนา  มีประโยชน์  แม้แก่เหล่าเทพบุตรผู้มาประชุมกัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น