07.เรื่องอุบาสกห้าคน
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภอุบาสก 5
คน ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า โย
ปาณมติมาเปติ เป็นต้น
ในกาลครั้งหนึ่ง อุบาสก
5
คนได้ไปรักษาอุโบสถศีลอยู่ที่วัดพระเชตวัน
อุบาสกแต่ละคนรักษาศีลเพียง 1-2 ข้อใน
8
ข้อนั้น
คนที่รักษาศีลข้อใดก็จะบอกว่าศีลที่ตนรักษาเป็นข้อที่รักษายากที่สุด จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ในที่สุดอุบาสกทั้ง 5
คนก็ได้ไปเฝ้าพระศาสดา
เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง
พระศาสดาตรัสว่า “ศีลทั้งหมด เป็นของรักษาโดยยากทั้งนั้น”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท
สามพระคาถานี้ว่า
โย
ปาณมติมาเปติ
มุสาวาทญฺจ
ภาสติ
โลโก
อทินฺนํ อาทิยติ
ปรทารญฺจ
คจฺฉติ ฯ
สุราเมรยปานญฺจ
โย
นโร อนุยุญฺชติ
อิเธวะเมโส
โลกสฺมึ
มูลํ
ขนติ อตฺตโน ฯ
เอวํ
โภ ปุริส ชานาหิ
ปาปธมฺมา
อสญฺญตา
มา
ตํ โลโภ อธมฺโม
จ
จืรํ
ทุกฺขาย รนฺธยุ ฯ
นระใด
ย่อมยังสัตว์มีชีวิต ให้ตกล่วงไป 1
กล่าวมุสาวาท 1
ถือเอาทรัพย์ที่บุคคลอื่นไม่ให้ในโลก 1
ถึงภริยาของคนอื่น1.
อนึ่ง
นระใด ย่อมประกอบเนืองๆ
ซึ่งการดื่มสุราและเมรัย
นระนี้
ชื่อว่า
ย่อมขุดซึ่งรากเหง้าของตนในโลกนี้ทีเดียว.
บุรุษผู้เจริญ
ท่านจงทราบอย่างนี้ ว่า
บุคคลผู้มีบาปธรรมทั้งหลาย
ย่อมเป็นผู้ไม่สำรวมแล้ว
ความโลภและสภาพมิใช่ธรรม จงอย่ารบกวนท่าน
เพื่อความทุกข์ ตลอดกาลนานเลย.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง อุบาสก
5 คนนั้น
บรรลุโสดาปัตติผล. พระธรรมเทศนา
มีประโยชน์ แม้แก่ชนผู้มาประชุมกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น