04.เรื่องปัญหาของพระอานนทเถระ
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภปัญหาของพระอานนทเถระ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า สพฺพปาปสฺส อกรณํ
เป็นต้น
ในสมัยหนึ่ง
พระอานทเถระ นั่งในที่พักกลางวัน
คิดว่า
พระศาสดาตรัสบอกเรื่องราวของพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ทุกอย่าง คือ พระชนนี
พระชนก การกำหนดพระชนมายุ ไม้ที่ตรัสรู้
สาวกสันนิบาต อัครสาวก อุปัฏฐาก
แต่มิได้ตรัสบอกในเรื่องอุโบสถ อุโบสถของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะเหมือนกันหรือไม่ จึงเข้าไปทูลถามพระศาสดา ก็ได้รับคำตอบว่า พระพุทธเจ้า
พระนามว่า วิปัสสี
ได้ทรงกระทำอุโบสถในทุก 7
ปี
เพราะพระโอวาทที่พระองค์ทรงประทานแล้วในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 7
ปี พระพุทธเจ้า พระนามว่าสิขีและเสสภู ทรงกระทำอุโบสถในทุกๆ 6
ปี เพราะพระโอวาทที่พระพุทธเจ้า 2
พระองค์นั้น ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 6 ปี
พระพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ และ โกนาคมนะ ได้ทรงกระทำอุโบสถทุกๆ ปี เพราะพระโอวาทที่พระพุทธเจ้า 2
พระองค์นั้น
ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ปีหนึ่งๆ พระพุทธจ้า
พระนามว่ากัสสปะ
ได้ทรงกระทำอุโบสถทุกๆ 6
เดือน
เพราะพระโอวาทที่พระองค์ทรงประทานในวันหนึ่งเท่านั้นพอไปได้ 6
เดือน
ส่วนโอวาทของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น
เป็นอย่างนี้
แล้วพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท 3
พระคาถานี้ว่า
สพฺพปาปสฺส
อกรณํ
กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ
เอตํ
พุทฺธานสาสนํ ฯ
ความไม่ทำบาปทั้งสิ้น
ความยังกุศลให้ถึงพร้อม
ความทำจิตของตนให้ผ่องใส
นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
ขนฺตี
ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
นิพฺพานํ
ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
น
หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
สมโณ
โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต
ฯ
ความอดทนคือความอดกลั้น
เป็นธรรมเผาบาปอย่างยิ่ง
ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ย่อมกล่าวนิพพานว่าเป็นเยี่ยม
ผู้ทำร้ายผู้อื่น ไม่ชื่อว่าบรรพชิต
ผู้เบียดเบียนผู้อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ
อนูปวาโท
อนูปฆาโต
ปาฏิโมกฺเข
จ สํวโร
มตฺตญฺญุตา
จ ภตฺตสฺมึ
ปนฺตญฺจ
สยนาสนํ
อธิจิตฺเต
จ อาโยโค
เอตํ
พุทธานสาสนํฯ
ความไม่กล่าวร้าย 1 ความไม่ทำร้าย 1
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ 1
ความเป็นผู้รู้ประมาณ ในอาหาร1
ที่นอนที่นั่งอันสงัด 1
ความประกอบโดยเอื้อเฟื้อในอธิจิต 1
นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก
บรรลุอริยผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น