วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปิยวรรค:06.เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง



06.เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  ตณหาย  ชายเต  เป็นต้น

พราหมณ์ผู้หนึ่ง  อยู่ที่เมืองสาวัตถี   เป็นมิจฉาทิฏฐิ   มืได้นับถือพุทธศาสนา  ในเช้าวันหนึ่ง  พราหมณ์ผู้นี้มาปรากฏอยู่ในข่ายคือพระญาณของพระองค์  และทรงทราบว่า  เขามีภาวะสุกงอมที่จะได้บรรลุธรรม  ดังนั้น พระองค์จึงได้เสด็จไปโปรด  ในวันแรกที่เสด็จไป  เป็นช่วงที่พราหมณ์นั้นกำลังไถนา  ตรัสถามว่า  กำลังทำอะไร  กราบทูลว่า กำลังไถนา  แล้วพระองค์ก็เสด็จกลับ  ในวันต่อมาๆ   เสด็จไปที่นั่นอีก  เป็นช่วงๆของการทำนา  คือ  ช่วงหว่าน  ช่วงไขน้ำ  ช่วงดูแลข้าวกล้า   และก็ได้ตรัสถามในแต่ละช่งนั้น  ซึ่งพราหมณ์ก็ได้กราบทูลว่า  กำลังไถนา  ...กำลังไขน้ำ  ...กำลังดูแลต้นข้าว  เมื่อตรัสถามและได้รับคำตอบแล้วพระศาสดาก็เสด็จกลับเช่นเดิม  มีอยู่วันหนึ่ง  เมื่อพระศาสดาเสด็จมา  พราหมณ์ได้กราบทูลว่า  พระโคดมผู้เจริญ  ท่านมาแล้ว  ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้าแผ้วถางนา  ถ้าข้าวกล้าของข้าพเจ้าจักเผล็ดผล  ข้าพเจ้าจักแบ่งปันแก่ท่านบ้าง  ยังไม่ให้ท่าน  ข้าพเจ้าก็จักยังไม่กิน  ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป  ท่านเป็นสหายของข้าพเจ้า
อยู่ต่อมา  ข้าวกล้าของพราหมณ์นั้นก็สุกเต็มที่ พราหมณ์นั้นก็จะทำการเก็บเกี่ยว  และคิดว่า ข้าวกล้าของเราเผล็ดผลแล้ว  เราจักให้เกี่ยวตั้งแต่พรุ่งนี้ไป  แต่ทว่า ในคืนนั้นเอง  เกิดฝนตกหนักตลอดคืน  น้ำพัดพาข้าวกล้าเสียหายหมด  เหลือให้เห็นแต่ผืนดิน  เมื่อพราหมณ์ไปดูนาในตอนเช้า  พบว่าข้าวที่กะว่าจะเก็บเกี่ยวนั้นถูกน้ำฝนพัดมาไปจนหมดสิ้น  ก็เกิดความเสียใจ  ยิ่งมานึกถึงคำพูดของตนที่เคยทูลพระศาสดาเอาไว้   ก็ยิ่งเสียใจหนักขึ้น  ถึงกับอดอาหาร  นอนแซ่วอยูบนเตียงนอนในบ้าน

พระศาสดาได้เสด็จไปที่ประตูบ้านของพราหมณ์นั้น  และพราหมณ์นั้นก็ได้สั่งคนในบ้านอัญเชิญพระศาสดาเข้ามาข้างในบ้าน  เมื่อพระศาสดาประทับนั่งแล้ว  ทรงสอบถามถึงพราหมณ์  ทรงทราบว่าพราหมณ์นอนอดข้าวอยู่ในห้องนอน  จึงรับสั่งให้คนไปเชิญออกมาพบ  ทรงสอบถามถึงสาเหตุของการอดข้าว  เมื่อทรงทราบแล้วก็ได้ตรัสถามว่า  อะไรทำให้เกิดความโศก  เมื่อพราหมณ์ทูลว่า  ไม่ทราบ  จึงตรัสว่า  พราหมณ์  ความจริง  ความโศกก็ดี  ภัยก็ดี  เมื่อจะเกิด  ย่อมอาศัยตัณหาเกิดขึ้น
จากนั้น  พระศาสดา  ได้ตรัสพระธรรมบท  พระคาถานี้ว่า

ตณฺหาย  ชายเต  โสโก
ตณฺหาย  ชายเต  ภยํ
ตณฺหาย  วิปฺปมุตฺตสฺส
นตฺถิ  โสโก  กุโต  ภยํ 

ความโศก  เกิดเพราะตัณหา
ภัย  ย่อมเกิดเพราะตัณหา
ความโศก  ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้วจากตัณหา
ภัยจักมีแต่ไหน. 

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  พราหมณ์ได้บรรลุโสดาปัตติผล.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น