11.เรื่องสุขสามเณร
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภสุขสามเณร
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า อุทกํ หิ
นยนฺติ เนตฺติกา เป็นต้น
สุขกุมาร
ได้บวชเป็นสามเณรเมื่อตอนอายุแค่ 7
ขวบ โดยมีพระสารีบุตรเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ ในวันที่แปดหลังจากบวชเป็นสามเณรแล้ว สุขสามเณรได้เดินตามพระสารีบุตรไปบิณฑบาต ขณะเดินไปนั้น
ทั้งสองพระเถระและสามเณรก็ได้ไปพบชาวนากำลังไขน้ำเข้านา ไปพบช่างศรกำลังดัดลูกศร และไปพบช่างถากกำลังถากไม้ เพื่อทำล้อเกวียนเป็นต้น
เมื่อเห็นบุคคลทำสิ่งหล่านี้ สามเณรสุขก็ได้เรียนถามพระสารีบุตรว่า
สิ่งของที่ไม่มีชีวิตทั้งหลาย
คนสามารถทำให้เป็นไปตามปรารถนาได้ใช่หรือไม่ เมื่อพระเถระตอบว่าใช่ สุขสามเณรก็เกิดความคิดว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่มีเหตุผลอะไร
ที่คนเราถึงจะไม่สามารถฝึกจิตจนได้สมาธิและปัญญา
สามเณรสุขจึงลาพระสารีบุตรเดินทางกลับวัดก่อน
จากนั้นก็เข้าห้องปิดประตูและปฏิบัติสมาธิภาวนา จนท้าวสักกะและทวยเทพทั้งหลายต้องมาคอยดูแลไม่ให้เกิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันจะเป็นการรบกวนและเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติธรรมของสามเณรสุข และในวันนั้นเอง สามเณรสุขก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
พวกภิกษุเกิดความสงสัยถึงความผิดปกติของธรรมชาติอันเกิดจากการดลบันดาลของท้าวสักกะและทวยเทพทั้งหลาย จึงนำความเข้ากราบทูลถามพระศาสดา พระศาสดาได้ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย
ในเวลาทำสมณธรรมของผู้มีบุญทั้งหลาย
ย่อมเป็นเช่นนั้นแล ก็ในวันนี้
ท้าวงมหาราช 4 องค์ ยึดอารักขาไว้โดยรอบ
พระจันทร์และพระอาทิตย์ได้ยึดวิมานหยุดอยู่ ท้าวสักกะทรงยึดอารักขาที่สายยู ถึงเราก็ยึดอารักขาอยู่ที่ซุ้มประตู วันนี้
สุขสามเณร
เห็นคนไขน้ำเข้าเหมือง
ช่างศรดัดศรให้ตรง
ช่างถากถากสัมภาระทั้งหลายมีล้อเป็นต้นแล้ว ฝึกตน
บรรลุพระอรหัตแล้ว”
จากนั้น
พระศาสดาตรัสพระธรรรมบท
พระคาถานี้ว่า
อุทกํ
หิ นยนฺติ เนตฺติกา
อุสุการา
นมยนฺติ เตชนํ
ทารํ
นมยนฺติ ตจฺฉกา
อตฺตานํ
ทมยนฺติ สุพฺพตา ฯ
คนไขน้ำทั้งหลาย ย่อมไขน้ำ
ช่างศรทั้งหลาย ย่อมดัดศร
ช่างถากทั้งหลาย ย่อมถากไม้
ผู้สอนง่ายทั้งหลาย ย่อมฝึกตน.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นมาก
บรรลุโสดาปัตติผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น