02.เรื่องมาร
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในแคว้นสักะ
ทรงปรารภหมู่พระญาติ
เพื่อระงับความทะเลาะ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า สุสุขํ
วต เป็นต้น
ในวันหนึ่ง
พระศาสดาทรงตรวจดูในข่ายคือพระญาณ
ทรงทราบว่าเด็กหญิง 500 ในหมู่บ้านปัญจศาลาจะได้บรรลุโสดาบัน
จึงได้เสด็จไปประทับยังที่ใกล้หมู่บ้านนั้น
เด็กหญิงเหล่านั้นได้พากันไปอาบน้ำอยู่ที่ริมแม่น้ำ แล้วแต่งตัวเดินมุ่งหน้ากลับไปที่หมู่บ้าน
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระศาสดาเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในหมู้บ้านปัญจศาลาแห่งนั้น
แต่ไม่มีชาวบ้านผู้ใดนำภัตตาหารมาใส่บาตรเพราะพวกชาวบ้านถูกมารเข้าสิง
เมื่อพระศาสดาเสด็จกลับมา
มารไปทูลถามว่าพระองค์ได้ข้าวบ้างไหม
พระศาสดาตรัสว่า “มารผู้มีบาป
ก็ท่านเป็นผู้ทำให้เราไม่ได้ข้าวโยเข้าสิงร่างของชาวบ้านมิใช่หรือ”
มารทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้ากระนั้น
ขอพระองค์เสด็จเข้าไปอีกเถิด” ที่มารทูลเช่นนี้ก็ด้วยมีความคิดว่า
หากพระสมณะเสด็จเข้าไปอีก
มารก็จะเข้าสิงในร่างของชนทั้งปวง
แล้วปรบมือกระทำการหัวเราะเยาะเย้ย ข้างหน้าพระศาสดา ส่วนเด็กหญิง 500 คนเหล่านั้น
ก็มาถึงหมู่บ้าน
ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว
ได้ยืนอยู่ในที่สมควรแห่งหนึ่ง
มารได้ทูลถามพระศาสดาว่า “เมื่อพระองค์ไม่ได้อาหาร
จะมีความทุกข์อันเกิดจากความหิวบีบคั้นบ้างไหม?” พระศาสดาตรัสว่า
“มารผู้มีบาป ในวันนี้
เราแม้ไม่ได้อะไรๆ
ก็จักยังกาลให้ล่วงไปด้วยความสุขอันเกิดจากปีติเท่านั้น ดุจพรหมในเทวโลกชั้นอาภัสระ”
จากนั้น
พระศาสดาตรัสพระธรรมบท
พระคาถานี้ว่า
สุสุขํ
วต ชีวาม
เยสนฺโน
นตฺถิ กิญฺจนํ
ปีติภกฺขา
ภวิสฺสาม
เทวา
อาภสฺสรา ยถา.
เราผู้ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล
ย่อมเป็นอยู่สบายดีหนอ
เราจักเป็นผู้มีปีติเป็นภักษา
เหมือนเหล่าเทวดาชั้นอาภัสระ.
เมื่อการแสดงธรรมจบลง เด็กหญิงทั้ง
500
นางเหล่านั้น ได้บรรลุโสดาปัตติผล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น