วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปาปวรรค:03. เรื่องนางลาชเทวธิดา



03. เรื่องนางลาชเทวธิดา

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนางลาชธิดา ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า   ปุญญญฺเจ  ปุริโส  กยิรา  เป็นต้น

ที่มาของการตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้มีว่า :

มีหญิงชาวนาเข็ญใจผู้หนึ่ง ถวายข้าวตอกแก่พระมหากัสสปะที่เพิ่งออกจากฌานสมาบัติ  หลังถวายข้าวตอกแล้วได้ทำความปรารถนาว่า  ท่านเจ้าข้า  ขอดิฉันพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งธรรมที่ท่านเห็นแล้วพระเถระได้กล่าวอนุโมทนาว่า ความปรารถนาอย่างนั้น  จงสำเร็จ  นางไหว้พระเถระแล้วนึกถึงทานที่ตนถวายหันหลังเดินกลับมา  ในระหว่างที่นางเดินมาบนคันนาเพื่อกลับมาที่กระท่อมนั้น  นางถูกงูพิษกัดตาย ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  อยู่ในวิมานทอง  ประมาณ  30 โยชน์  มีร่างกายประมาณ 3  คาวุต(ประมาณ 100 เส้น)เพราะอานิสงส์ถวายข้าวตอกเป็นทานด้วยศรัทธา นางจึงได้ชื่อว่าลาชเทวธิดา(เทวธิดาข้าวตอก) นางต้องการจะเพิ่มพูนบุญกุศลให้แก่ตน ได้ลงจากสวรรค์มาเก็บกวาดบริเวณที่พักของพระมหากัสสปเถระในตอนเช้าๆ ถูกพระเถระห้ามปรามไม่ให้ทำ เพราะเกรงว่าคนจะนำไปติเตียนได้ นางเทวธิดาเสียใจร้องไห้ที่ถูกขัดขวางมิให้ทำความดี พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นด้วยพระเนตรทิพย์ ได้เนรมิตพระวรกายไปปรากฏประหนึ่งว่าอยู่เบื้องหน้าของนาง แล้วรับสั่งกับนางว่า ความสำรวมระวังเป็นหน้าที่ของกัสสปะ การกระทำบุญเป็นหน้าที่ของผู้ต้องการบุญ การกระทำบุญเป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า

ปุญญญฺเจ  ปุริโส  กยิรา
กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ
ตมฺหิ  ฉนฺทํ   กยิราถ
สุโข   ปุญฺญสฺส   อุจฺจโยฯ

หากบุคคลจะทำบุญ
ก็ควรทำบุญนั้นบ่อยๆ
ควรทำความพอใจในบุญนั้น
เพราะการสั่งสมบุญ
เป็นเหตุให้เกิดสุข.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง นางเทวธิดานั้น ซึ่งยืนอยู่ห่างไกลออกไปถึง 45 โยชน์ ได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น