วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สหัสสวรรค:08.เรื่องอายุวัฒนกุมาร



08.เรื่องอายุวัฒนกุมาร

พระศาสดา เมื่อทรงอาศัยทีฆลัมพิกนคร ประทับอยู่ ณ กุฎีในป่า ทรงปรารภกุมารผู้มีอายุยืน ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 109

ครั้งหนึ่งมีพราหมณ์ 2 คนชาวทีฆลัมพิกนคร บวชบำเพ็ญตบะอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 48 ปี ต่อมาพราหมณ์คนหนึ่งสึกออกไปเป็นฆราวาสและได้แต่งงานมีครอบครัว หลังจากภรรยาของพราหมณ์ผู้นี้คลอดบุตรออกมาเป็นชายแล้ว พราหมณ์ก็ได้พาภรรยากับบุตรไปเยี่ยมพราหมณ์ที่ยังบวชบำเพ็ญตบะอยู่นั้น เมื่อสองสามีภรรยาทำความเคารพ พราหมณ์นักบวชได้กล่าวว่า ขอท่านจงเป็นผู้มีอายุยืนแต่พอตอนที่สองสามีภรรยาให้บุตรชายทำความเคารพ พราหมณ์นั้นกลับนิ่ง ไม่พูดอะไร พราหมณ์ที่สึกออกไปมีครอบครัวเกิดความสงสัย จึงได้สอบถามถึงเหตุผลที่เงียบนั้น พราหมณ์จึงบอกว่าทารกคนนี้จะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบวิธีป้องกันการเสียชีวิตของทารกนี้ และได้แนะนำให้ไปทูลถามพระศาสดา

ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงอุ้มบุตรไปเฝ้าพระศาสดา เมื่อคนทั้งสองนสัสการ พระศาสดาตรัสว่า ขอท่านจงเป็นผู้มีอายุยืนแต่พอพาเด็กเข้าไปนมัสการ พระศาสดากลับทรงนิ่งเสีย และได้ทรงทำนายว่าเด็กคนนี้จะเสียชีวิตภายใน 7 วันเหมือนกัน แต่พระศาสดาได้ตรัสบอกวิธีที่จะป้องกันทารกจากเสียชีวิต โดยให้สร้างมณฑปไว้ที่ประตูเรือนของพราหมณ์ แล้วนำเด็กขึ้นไปนอนบนมณฑปนั้น จากนั้นก็ให้นิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์สวดพระปริตรเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งพราหมณ์ก็ได้กระทำตามที่ทรงแนะนำทุกอย่าง

ในวันที่ 7 พระศาสดาได้เสด็จมายังมณฑปนั้นด้วย พวกเทวดาในจักรวาลทั้งสิ้นก็ได้มาประชุมกัน ณ ที่นั้นด้วย ในขณะนั้น อวรุทธยักษ์ตนหนึ่งได้มาที่ประตูบ้านเพื่อคอยจังหวะที่จะจับเด็กทารกนั้นไปกิน แต่เมื่อมีเทวดาศักดิ์ใหญ่มากันมาก พวกเทวดาศักดิ์น้อยก็จะต้องถอยร่นเพื่อเปิดที่ให้ อวรุทธกยักษ์ก็ต้องถอยร่นไปอยู่ไกลจากเด็กทารกนั้นถึง 12 โยชน์ ตลอดคืนที่ 7 นั้นพระภิกษุสงฆ์ก็ได้เจริญพระปริตรอยู่อย่างนั้นจนสว่าง ทำให้อวรุทธยักษ์ไม่สามารถเข้ามาจับทารกนั้นไปกินได้ พออรุณขึ้นสองสามีภรรยานำทารกมาถวายบังคมพระศาสดา พระศาสดาตรัสว่า ขอเจ้าจงมีอายุยืนเถิดเมื่อสองสามีภรรยาทูลถามว่าทารกจะมีอายุยืนกี่ปี พระศาสดาตรัสว่าจะมีอายุยืน 120 ปี สามีภรรยาจึงตั้งชื่อเด็กทารกว่า อายุวัฒนกุมาร

เมื่ออายุวัฒนกุมารเติบโตแล้ว เวลาไปไหนมาไหนก็มีผู้ติดตามไปเป็นบริวารถึง 500 คน วันหนึ่งอายุวัฒนกุมารพร้อมกับบริวารได้มาที่วัดพระเชตวัน ภิกษุทั้งหลายจำได้ จึงทูลถามพระศาสดาว่า เหตุเครื่องเจริญอายุของสัตว์เหล่านี้ เห็นจะมีพระศาสดาตรัสตอบภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ว่า โดยการนอบน้อมท่านผู้สูงอายุ มิใช่ว่าจะทำให้อายุยืนเท่านั้น แต่ยังจะเป็นเหตุให้ได้วรรณะ สุขะ และพละ อีกด้วย

จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส พระธรรมบท พระคาถาที่ 109 ว่า

      อภิวาทนสีลิสฺส
      นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน
      จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ
      อายุ วณฺโณ สุขํ พลํฯ

      ผู้ชอบกราบไหว้ นอบน้อม
      ผู้ใหญ่เป็นนิตย์
      จะเจริญด้วยพร 4 ประการ
      คือ มีอายุยืน มีผิวพรรณผุดผ่อง
      มีความสุข มีพลานามัยแข็งแรง.
 
เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา อายุวัฒนกุมาร และบริวาร 500 คน ได้บรรลุโสดาปัตติผล แม้ชนเหล่าอื่นเป็นอันมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น