04.เรื่องพระโกณฑธานเถระ
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน
ทรงปรารภพระโกณฑธานเถระ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า มาโวจ ผรุสํ
กญฺจิ เป็นต้น
ตั้งแต่วันที่พระโกณฑธานเถระอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีรูปสตรีคนหนึ่งติดตามไปกับพระเถระเสมอๆ แต่พระเถระไม่แลเห็นรูปสตรีนั้น มีแต่พวกชาวบ้านและภิกษุอื่นแลเห็น เมื่อพระเถระไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน
พวกชาวบ้านเมื่อตักข้าวทัพพีแรกใส่บาตรก็จะพูดว่า ท่านขอรับ
ทัพพีแรกนี้ จงเป็นของท่าน
เมื่อตักทัพพีที่สองใส่ลงในบาตร
ก็จะพูดว่า ทัพพีที่สองนี้
จงเป็นของสำหรับสตรีผู้สหายของท่าน
เมื่อพวกภิกษุทั้งหลาย เห็นพระเถระมีผู้หญิงเดินไปด้วยเช่นนั้น ก็พยายามไปปรึกษาท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี
และนางวิสาขาเพื่อให้จัดการ
แต่ทั้งสองท่านเห็นว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ก็ควรให้สงฆ์จัดการกันเอง
พระภิกษุทั้งหลายจึงได้ทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลให้ทรงดำเนินการขับไล่พระเถระออกไปเสียจากแคว้นของพระองค์
โดยได้ทูลพระราชาว่า “มหาบพิตร ภิกษุชื่อโกณฑธานะ พาหญิงคนหนึ่งเที่ยวไป จะยังความเสียหายให้เกิดแก่ภิกษุทุกรูป ขอมหาบพิตร
ทรงขับไล่ภิกษุนั้นออกจากแว่นแคว้นของพระองค์เสีย”
พระราชาพร้อมด้วยข้าราชบริพารจึงได้เสด็จไปที่วัดที่พระโกณฑธานเถระพำนักอยู่นั้นเพื่อทรงสอบสวน เมื่อพระเถระได้ยินเสียงอึกทึกของผู้คน
ก็ได้เดินมาที่ประตูกุฏิและก็มีรูปของสตรีมาปรากฏอยู่ไม่ไกลจากพระเถระเหมือนอย่างเคย เมื่อพระเถระได้ทราบว่าพระราชาเสด็จมา จึงไปนั่งที่ห้องเพื่อรอรับเสด็จ พระราชาเสด็จเข้าไปในห้อง ไม่เห็นสตรีอยู่ในห้อง ก็ได้ตรวจดูที่ซอกประตู ที่ให้เตียง
ก็ไม่เห็นสตรีนั้น
จึงตรัสกับพระเถระว่า ท่านขอรับ โยมเห็นสตรีคนหนึ่งอยู่กับท่าน เธอไปเสียที่ไหน พระเถระตอบว่า
อาตมภาพไม่เห็นสตรีที่ว่านั้น “เมื่อกี้โยมแลเห็นอยู่นี่”
“แต่อาตมภาพไม่เห็น”
เพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น พระราชาได้ขอให้พระเถระออกจากห้อง
ไปอยู่ที่หน้ามุข
พระองค์ก็ทรงเห็นสตรีนั้นยืนอยู่ข้างหลังพระเถระ และเมื่อพระเถระเดินกลับมาที่ห้อง พระองค์ก็แลเห็นสตรีเดินตามพระเถระเข้ามา
แต่พอพระองค์เข้าไปตรวจสอบหาหญิงคนนั้นก็ไม่พบหญิงนั้นแต่อย่างใด
พระราชาทรงแน่พระทัยว่ารูปที่คนอื่นแลเห็นกันนั้นเป็นรูปไม่จริง พระเถระยังมีศีลบริสุทธิ์อยู่
ทรงเกรงว่าพระเถระจะเป็นที่รังเกียจของชาวบ้านจนถึงกับไม่ยอมใส่บาตรให้ฉัน
จึงได้ทรงอาราธนาพระเถระเข้าไปรับอาหารบิณฑบาตที่พระราชวังของพระองค์เป็นประจำทุกวัน
เมื่อภิกษุทั้งหลายได้ยินข่าวนี้
ก็กล่าวในเชิงติเตียนพระราชาว่า “ท่านทั้งหลายจงดูการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระราชาชั่วนั้นเถิด เมื่อพวกเราทูลให้ทรงขับไล่พระโกณฑธานะออกไปเสียจากแว่นแคว้น พระองค์กลับนิมนต์พระรูปนั้นไปรับปัจจัย 4
ที่พระราชวัง” และพวกภิกษุก็ได้กล่าวตำหนิพระโกณฑธานะซึ่งหน้าว่า
“เฮ้ย คนทุศีล
บัดนี้
พระราชาก็กลายเป็นคนชั่วเหมือนเจ้าเข้าให้แล้ว”
พระโกณฑธานะจึงพูดโต้ตอบไปบ้างว่า “พวกท่านนะแหละเป็นผู้ทุศีล พวกท่านนะแหละเป็นคนชั่ว พวกท่านนะแหละไปกับผู้หญิง”
พวกภิกษุจึงนำเรื่องที่พระโกณฑธานะพูดตอบโต้ไปกราบทูลพระศาสดา
และพระศาสดาได้รับสั่งให้พระโกณฑธานะมาเฝ้า ตรัสถามว่า
ได้พูดอย่างนั้นหรือไม่ “ พูดจริงพระเจ้าข้า”
“พูดอย่างนั้นทำไม”
“พูดเพราะพระเหล่านั้นพูดก่อน”
“ท่านทั้งหลาย
พูดกับพระโกณฑธานะอย่างนั้นเพราะเหตุใด” “เพราะพวกข้าพระองค์เห็นผู้หญิงเดินตามพระโกณฑธานะ”
“ที่พระเหล่านี้เห็นผู้หญิงเดินตามเธอ แต่เธอไม่เห็นหญิงผู้นั้น ก็เพราะผลของกรรมในอดีตชาติของเธอนั่นเอง”
เมื่อพวกภิกษุกราบทูลถามถึงอดีตชาติของพระโกณฑธานเถระ พระศาสดาได้ทรงนำมาเล่าว่า
พระโกณฑธานะในอดีตชาติเคยเกิดเป็นเทวดาตนหนึ่ง เห็นพระสองรูปมีความสมัครสมานสามัคคีกัน ต้องการกลั่นแกล้งให้เกิดความหวาดระแวงและความแตกแยกระหว่างกัน
จึงได้แปลงร่างเป็นผู้หญิงเดินตามหลังภิกษุรูปหนึ่งไป จนทำให้ภิกษุอีกรูปหวาดระแวงว่าภิกษุที่มีรูปผู้หญิงเดินตามนั้นทุศีล
พระทั้งสองรูปจึงเกิดการแตกแยกและไม่คบหากันกันอย่างรุนแรง
และเพราะกรรมชั่วในอดีตนั้นจึงส่งผลให้พระโกณฑธานะในชาติปัจจุบันมีรูปผู้หญิงเดินตาม
เมื่อตรัสบุรพกรรมจบลง พระศาสดาได้ตรัสสอนกพระโกณฑธานะว่า “ภิกษุ
เธออาศัยกรรมชั่วนี้
จึงเกิดเรื่องแปลกประหลาดนี้
บัดนี้
การที่เธอถือความเห็นที่ไม่ดีเช่นนี้อีก
เป็นการไม่สมควร
เธออย่ากล่าวอะไรๆกับภิกษุทั้งหลายอีก
จงเป็นผู้ไม่มีเสียง
เช่นกังสดาลที่เขาตัดของปากแล้ว
เมื่อทำอย่างนั้น จักเป็นผู้ชื้อว่าบรรลุพระนิพพาน”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท
พระคาถานี้ว่า
มาโวจ
ผรุสํ กญฺจิ
วุตฺตา
ปฏิวเทยฺยุ ตํ
ทุกฺขา
หิ สารมภกถา
ปฏิทณฺฑา
ผุเสยฺยุ ตํ ฯ
เธออย่าได้กล่าวคำหยาบกะใครๆ
ชนเหล่าอื่นถูกเธอว่าแล้ว จะพึงว่าเธอตอบ
เพราะการกล่าวแข่งขันกันให้เกิดทุกข์
อาชญาตอบพึงถูกต้องเธอ.
สเจ
เนเรสิ อตฺตานํ
กํโส
อุปหโต ยถา
เอส
ปตฺโตสิ นิพฺพานํ
สารมฺโภ
เต น วิชฺชติ.
หากเธออาจยังตนไม่ให้หวั่นไหวได้
ดังกังสดลที่ถูกกำจัดแล้วไซร้
เธอนั่นย่อมเป็นผู้บรรลุพระนิพพาน
การกล่าวแข่งขันกัน ย่อมไม่มีแก่เธอ.
เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นมาก
บรรลุโสดาปัตติผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
แม้แต่พระโกณฑธานเถระ ตั้งอยู่ในพระโอวาทที่พระศาสดาประทานแล้ว ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล ต่อมาไม่นานนัก ท่านได้เหาะขึ้นไปในอากาศ จับสลากเป็นครั้งแรก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น