วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปิยวรรค:01.เรื่องบรรพชิต 3 รูป



01.เรื่องบรรพชิต 3 รูป

พระศาสดา  เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน  ทรงปรารภบรรพชิต 3 รูป  ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า  อโยเค  ยุญฺชมตฺตานํ  เป็นต้น

ครั้งหนึ่ง   ที่กรุงสาวัตถี   บุตรคนเดียวของครอบครัว  ออกบวชเป็นภิกษุก่อน ไปอยู่ในสำนักของภิกษุ ต่อมาบิดาก็ออกบวชตามบุตร  ไปอยู่ในสำนักของภิกษุเช่นเดียวกับบุตร  ต่อมามารดาก็ตามสามีและบุตรไปบวชเป็นภิกษุณี

อยู่ในสำนักภิกษุณี   ทั้งสามคนแม้จะบวชแล้วก็ยังไปมาหาสู่กัน  วันๆหมดไปด้วยการไปพบปะสนทนากันอยู่เป็นประจำ  ในสำนักของภิกษุบ้าง  ในสำนักของภิกษุณีบ้าง  จนเป็นที่เดือนร้อนรบกวนแก่ภิกษุและภิกษุณีอื่นๆ  ภิกษุทั้งหลายกราบทูลพฤติกรรมของบรรพชิตทั้งสามแด่พระศาสดา   และพระศาสดาได้ตรัสเรียกบรรพชิตทั้งสามรูปนั้นมาว่ากล่าวตักเตือน  แล้วตรัสว่า ชื่อว่าการทำเช่นนี้  จำเดิมแต่กาลแห่งตนบวชแล้ว  ไม่ควร  เพราะว่า  การเห็นสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก  และการเห็นสัตว์และสังขารอันไม่เป็นที่รัก  เป็นทุกข์โดยแท้  เหตุนั้น  การทำสัตว์และสังขารทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่ง  ให้เป็นที่รัก  หรือไม่ให้เป็นที่รัก  ย่อมไม่ควร

จากนั้น  พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท  สามพระคาถานี้ว่า

อโยเค  ยุญชมตฺตานํ
โยคสฺมิญฺจ  อโยชยํ
อตฺถํ  หิตฺวา  ปิยคฺคาหี
ปิเหตตฺตานุโยคินํ 
 
มา  ปิเยหิ  สมาคญฺฉิ
อปฺปิเยหิ  กุทาจนํ
ปิยานํ  อทสฺสนํ  ทุกฺขํ
อปฺปิยานญฺจ  ทสฺสนํ ฯ

ตสฺมา  ปิยํ    กยิราถ
ปิยาปิโย  หิ  ปาปโก
คนฺถา  เตสํ    วิชฺชนฺติ
เยสํ  นตฺถิ  ปิยาปิยํ ฯ
 
บุคคล  ประกอบตนไว้ในสิ่งอันไม่ควรประกอบ
และไม่ประกอบไว้ในสิ่งอันควรประกอบ
ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์
ถือเอาอารมณ์อันเป็นที่รัก
ย่อมทะเยอทะยาน
ต่อบุคคลผู้ตามประกอบตน.

บุคคลอย่าสมาคมกับสัตว์และสังขารทั้งหลาย
อันเป็นที่รัก(และ) อันไม่เป็นที่รัก ในกาลไหนๆ
เพราะว่า  การไม่เห็นสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก  เป็นทุกข์.

เพราะเหตุนั้น  บุคคลไม่พึงกระทำสัตว์หรือสังขาร  ให้เป็นที่รัก
เพราะความพรากจากสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก เป็นการต่ำทราม
กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย  ของเหล่าบุคคลผู้มีอารมณ์อันเป็นที่รักและไม่เป็นที่รัก  ย่อมไม่มี.

เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง  ชนเป็นอันมาก  บรรลุอริยผลทั้งหลาย  มีโสดปัตติผลเป็นต้น  ฝ่ายชนทั้ง 3  นั้นคิดว่า  พวกเราไม่อาจอยู่พรากกันได้  ไปสึกออกไปอยู่บ้านตามเดิม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น