วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สหัสสวรรค:14.เรื่องพระพหุปุตติกาเถรี



14.เรื่องพระพหุปุตติกาเถรี

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระพหุปุตติกาเถรี ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 115 นี้

ครั้งหนึ่ง ในนครสาวัตถี มีตระกูลหนึ่ง มีบุตรชาย 7 คนและบุตรสาว 7 คน บุตรชายและบุตรสาวทั้ง 14 คนเมื่อเจริญวัยแล้ว ก็ได้แต่งงานและดำรงครอบครัวมีความสุขตามอัตภาพ ต่อมาบิดาของคนเหล่านั้นได้เสียชีวิตลง มารดาก็ยังเก็บสมบัติทั้งหมดเอาไว้โดยที่มิได้แบ่งให้แก่บุตรชายและบุตรสาวแต่อย่างใด บุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายต่างต้องการมรดกจึงได้กล่าวกับมารดาว่า จะมีประโยชน์อะไรที่แม่ต้องเก็บมรดกนี้ไว้ แม่ควรแบ่งมรดกให้แก่พวกเรา พวกเราก็จะช่วยกันคอยดูแลแม่พวกบุตรชายและบุตรหญิงต่างช่วยกันพูดกรอกหูมารดาอยู่ทุกวัน จนฝ่ายมารดาเชื่อว่าพวกเขาจะเลี้ยงดูตน นางจึงตัดสินใจแบ่งมรดกทั้งหมดให้แก่บุตรและธิดา โดยที่มิได้เก็บส่วนใดไว้สำหรับตนเองเลย

หลังจากที่ได้แบ่งมรดกกันไปเรียบร้อยแล้ว นางผู้มารดาก็ได้ไปอยู่กับบุตรชายคนหัวปีเป็นคนแรก ลูกสะใภ้คนโตได้บ่นว่า คุณแม่มาอยู่กับพวกเราที่นี่ ราวกับว่าแบ่งมรดกให้เรา 2 ส่วน กระนั้นแหละเมื่อได้ยินลูกสะใภ้คนโตพูดกระแนะกะแหนอย่างนั้น นางก็ได้ออกจากบ้านบุตรชายคนโตไปอยู่ที่บ้านของบุตรชายคนรอง แต่ก็ต้องพบกับคำบ่นว่ากระแนะกระแหนแบบเดียวกันนั้น ไม่ว่าจะไปที่บ้านใคร จะเป็นบ้านบุตรชายและบุตรสาวคนไหน ทุกคนล้วนมีปฏิกิริยาแบบเดียวกันหมดคือไม่ประสงค์จะเลี้ยงดูนาง

เมื่อนางถูกดูหมิ่นเช่นนี้ คิดว่า เรื่องอะไรเราถึงจะไปอยู่ตามบ้านของพวกลูกๆเหล่านี้ เราควรออกบวชเป็นภิกษุณีแล้วไปสู่สำนักของนางภิกษุณีขอบรรพชา ซึ่งนางภิกษุณีเหล่านั้นก็ไม่ขัดข้องได้ให้นางบรรพชาตามความปรารถนา เมื่อนางได้อุปสมบทเป็นภิกษุณีแล้ว จึงมีชื่อว่า พหุปุตติกาเถรี(พระเถรีผู้มีบุตรมาก)" นางมีความคิดว่า เรามาบวชตอนแก่ เราไม่ควรประมาทจึงใช้ความบากบั่นบำเพ็ญสมณธรรมตลอดคืนยังรุ่ง โดยนึกอยู่เสมอว่า จักทำตามธรรมที่พระศาสดาทรงแสดง

พระศาสดาประทับนั่งในพระคันธกุฎี ทรงแผ่พระรัศมีไปดังประทับนั่งตรงหน้า ตรัสกับนางว่า พหุปุตติกา ความเป็นอยู่แม้ครู่เดียว ของผู้เห็นธรรมที่เราแสดง ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ 100 ปี ของผู้ไม่นึกถึง ไม่เห็นธรรมที่เราแสดง

 จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 115 ว่า

      โย จ วสฺสสตํ ชีเว
      อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ
      เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
      ปสฺสโต ธมฺมมุตตมํฯ

      ผู้ไม่เห็นธรรมอันสูงสุด
      ถึงมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
      สู้ผู้เห็นธรรมอันสูงสุด
      มีชีวิตอยู่แค่วันเดียว ไม่ได้.

  เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง พระพหุปุตติกาเถรี ได้บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น