12.เรื่องสุปปพุทธศากยะ
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในนิโครธาราม
ทรงปรารภเจ้าศากยะทรงนามว่าสุปปพุทธะ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า น อนฺตลิกฺเข
น สมุทฺทมชฺเฌ เป็นต้น
พระเจ้าสุปปพุทธะเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายเทวทัต และเป็นสัสสุระ(พ่อตา)ของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งต่อมาก็คือพระโดดมพุทธเจ้านั่นเอง ท้าวเธอผูกอาฆาตในพระศาสดาด้วยเหตุ 2
ประการ คือ 1. พระสมณโคดมนี้ทิ้งลูกสาวของเรา(คือพระนางยโสธรา)
ออกบวช และ 2.
ให้ลูกชายของเรา(คือเจ้าชายเทวทัต)
บวชแล้วตั้งตัวเป็นศัตรูกับลูกชายของเรา
อยู่มาวันหนึ่ง ทรงดำริว่า จะไม่ให้พระสมณโคดมไปฉันยังสถานที่นิมนต์
จึงไปนั่งเสวยน้ำจัณฑ์(สุรา)ปิดหนทางที่จะเสด็จไป เมื่อพระศาสดาเสด็จมาพร้อมหมู่ภิกษุสงฆ์ พระเจ้าสุปปพุทธปฏิเสธที่จะหลีกทางให้
และได้รับสั่งกับมหาดเล็กให้ไปบอกพระสมณโคดมว่า พระสมณโคดมไม่ใหญ่กว่าเรา เราจักไม่ให้ทางแก่พระสมณโคดม พระศาสดาเมื่อทรงพบว่าหนทางเสด็จถูกปิดกั้นไว้เช่นนั้น
พระองค์พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสงฆ์ก็ได้เสด็จกลับ
พระเจ้าสุปปพุทธะได้ส่งสายลับ(จารบุรุษ)ติดตามพระศาสดาไปเพื่อสืบทราบว่าได้ตรัสว่าอย่างไรบ้างแล้วกลับมารายงานให้ทรงทราบ
ขณะที่พระศาสดาเสด็จกลับนั้น ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า “เจ้าสุปปะพุทธะนั้นไม่ให้ทางแก่พระพุทธเจ้าเช่นเรา ทำกรรมหนักแล้ว ในวันที่ 7 แต่วันนี้
ท้าวเธอถูกแผ่นดินสูบ ณ
ที่ใกล้เชิงบันได ในภายใต้ปราสาท”
เมื่อจารบุรุษลายลับผู้นั้นนำความมากราบทูลให้ทราบ พระเจ้าสุปปพุทธะตรัสว่า พระองค์จะไม่เสด็จไปที่ตรงเชิงบันได เมื่อไม่ไปตรงนั้นพระองค์ก็จะไม่ถูกธรณีสูบที่ตรงจุดนั้น
และก็จะพิสูจน์ว่าดำรัสของพระสมณโคดมผิดพลาด ท้าวเธอได้รับสั่งให้พวกมหาดเล็กขนเครื่องใช้สอยของพระองค์ทั้งหมดไปไว้บนปราสาท
7
ชั้น ให้ชักบันได ปิดประตู
วางคนแข็งแรงประจำไว้ที่ประตู ๆ ละ
2
คน ตรัสว่า หากพระองค์หลงลืมเสด็จดำเนินไปทางนั้น
ก็ให้คอยดึงพระองค์เอาไว้
พระศาสดาทรงสดับการดำเนินการของพระเจ้าสุปปพุทธะแล้ว ตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลาย เจ้าสุปปพุทธะ
ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในปราสาท
จะเหาะขึ้นไปสู่เวหาหาวไปนั่งในอากาศ
จะไปมหาสมุทรด้วยเรือ จะเข้าไปอยู่ในซอกเขา
พระดำรัสของพระพุทธเจ้าผิดพลาดไม่จริงเป็นอันไม่มี ท้าวเธอจะถูกธรณีสูบในสถานที่เราพูดไว้นั่นแหละ”
จากนั้น
พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ นี้ว่า
น
อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ
น
ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส
น
วิชฺชเต โส ชคติปฺปเทโส
ยตฺรฏฺฐิตํ
นปฺปสเหยฺย มจฺจุฯ
ไม่ว่าผู้นั้นจะนั่งอยู่ในกลางหาว
ไม่ว่าจะเข้าไปสู่ท่ามกลางสมุทร
ไม่ว่าจะเข้าไปสู่ซอกเขา
ส่วนของแผ่นดิน
ที่ความตายไม่พึงครอบงำผู้สถิตอยู่
ย่อมไม่มี
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก
บรรลุอริยผลทั้งหลาย
มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
ครั้นถึงวันที่ 7
ในเวลาเดียวกับที่เจ้าสุปปพุทธะปิดหนทางภิกษาจารของพระศาสดา
ม้ามงคลของเจ้าสุปปพุทธะในภายใต้ปราสาทเกิดคึกคะนองโดยไม่ทราบสาเหตุ
ส่งเสียงร้องและใช้เท้าดีดฝาโรงม้าเสียงดังโครมคราม
เจ้าสุปปพุทธะสดับเสียงคึกคะนองของม้ามงคลนั้นแล้ว มีพระประสงค์จะไปจับม้านั้น ได้เสด็จลุกขึ้นจากที่ประทับ บ่ายพระพักตร์มาทางประตู ฉับพลันนั้นเองประตูทั้งหลายก็เปิดเอง บันไดที่ถูกยกขึ้นไว้ก็กลับมาพาดอยู่ในที่เดิม คนแข็งแรงที่จัดไว้ดูแลที่ประตู จับท้าวเธอที่พระศอ แล้วผลักจนพระพักตร์ขมำลงไปเบื้องล่าง เมื่อท้าวเธอก้าวไปประทับยืนอยู่ที่เชิงบันได
ตรงที่ภายใต้ปราสาท
แผ่นดินตรงนั้นก็แยกตัวสูบท้าวเธอไปบังเกิดในอเวจีนรก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น