03. เรื่องพระเจ้าวิฑูฑภะ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระนครสาวัตถี
ทรงปรารภพระเจ้าวิฑูฑภะ พร้อมทั้งข้าราชบริพาร
ซึ่งถูกน้ำท่วมจนเสด็จสวรรคตและเสียชีวิต ได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 47
นี้
เจ้าชายวิฑูฑภะเมื่อได้ทรงทราบเรื่องนั้นโดยตลอดแล้ว
ก็ทรงพิโรธมากและได้ทรงประกาศว่า
สักวันหนึ่งพระองค์จะทรงเอาเลือดจากลำคอของพวกเจ้าศากยะมาล้างพระแท่นที่ประทับนั้นให้จงได้
และเมื่อพระองค์ได้รับการอภิเษกเป็นพระราชาแล้ว
พระองค์ก็ได้ทรงกระทำตามที่ได้ทรงประกาศเอาไว้เมื่อครั้งนั้น
โดยพระองค์ทรงกรีธาทัพบุกไปสังหารพวกเจ้าศากยะทั้งหมด
ยกเว้นแต่พระเจ้ามหานามะและคนไม่กี่คนที่อยู่กับพระองค์
ในระหว่างทางที่ทรงยกทัพกลับแคว้นโกศล
พระเจ้าวิฑูฑภะและกองทัพของพระองค์ได้ตั้งค่ายพักแรมอยู่บนหาดทรายในแม่น้ำอจิรวดี คืนนั้นได้เกิดฝนตกลงมาหนักมากทางด้านเหนือน้ำ
เกิดน้ำหลากไหลมาพัดพาทหารในกองทัพรวมทั้งพระเจ้าวิฑูฑภะเองที่นอนอยู่บนหาดทราย ทุกคนได้ถูกกระแสน้ำพัดหายลงไปในมหาสมุทร
เมื่อพระศาสดาทรงสดับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมทั้งสองเหตุการณ์นี้แล้ว
ได้ทรงอธิบายกะภิกษุทั้งหลายว่า พระญาติของพระองค์คือพวกเจ้าศากยะเหล่านี้ได้เคยกระทำกรรมอย่างหนึ่งไว้ในอดีตชาติ
กล่าวคือ
พวกเขาได้ใส่ยาพิษลงไปในน้ำทำให้ปลาและสัตว์น้ำทั้งหลายตายไปเป็นจำนวนมาก
ก็เพราะผลของอกุศลกรรมที่ทำมานั้นจึงทำให้พวกเจ้าศากยะต้องมาเสียชีวิตพร้อมๆกันอย่างนี้ และพระองค์ได้ตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระเจ้าวิฑูฑภะและกองทัพของพระองค์ด้วยว่า
“ความตายย่อมพัดพาเอาหมู่สัตว์ที่มัวแต่ลุ่มหลงในกามคุณไป
ดุจห้วงน้ำใหญ่พัดพาพวกคนที่มัวหลับใหลไปฉะนั้น”
ปุปฺผานิ เหว ปจินนฺตํ
พฺยาสตฺตมนสํ
นรํ
สุตฺตํ คามํ
มโหโฆ ว
มจฺจุ อาทาย คจฺฉติฯ
ความตายคร่าคนที่มัวเลือกเก็บดอกไม้(กามคุณ)
มีใจข้องแวะอยู่ในกามคุณไป
เหมือนห้วงน้ำใหญ่พัดพา
เอาชาวบ้านผู้หลับใหลไปฉะนั้นฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น