03เรื่องพระติสสเถระ
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน
กรุงสาวัตถี ทรงปรารภพระติสสเถระ ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 3
และที่ 4 นี้
พระติสสเถระ เป็นบุตรพระญาติข้างพระมารดาของพระศาสดา ครั้งหนึ่งได้มาอยู่กับพระศาสดา
ติสสเถระอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อตอนชราภาพแล้ว
แต่ได้ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นพระเถระและจะแสดงความดีใจเมื่อพระอาคันตุกะขออนุญาตทำกิจวัตรที่พระผู้น้อยสมควรทำแก่พระผู้ใหญ่กับท่าน
ตรงกันข้ามท่านติสสเถระไม่ยอมทำกิจวัตรที่ตนในฐานะที่เป็นพระพรรษาน้อยจะต้องทำแก่พระผู้ใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้นท่านก็ยังทะเลาเบาะแว้งกับพระภิกษุหนุ่มอยู่เป็นประจำ
หากมีใครว่ากล่าวตักเตือนในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตนนี้ ท่านก็จะนำเรื่องไปฟ้องกับพระศาสดา
แล้วแสร้งบีบน้ำตาห้องไห้แสดงความไม่พอใจและความผิดหวังออกมา
พวกพระอื่นๆก็ได้ติดตามพระติสสเถระไปเฝ้าพระศาสดา
พระศาสดาได้ตรัสสอนพระภิกษุทั้งหลายไม่ให้สร้างความรู้สึกผูกใจเจ็บ เพราะเวรนี้ไม่สามารถระงับได้ด้วยการจองเวร
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 3
และที่ 4 นี้
อกฺโกจฺฉิ มํ
อวธิ มํ
อชินิ มํ
อหาสิ เม
เย จ
ตํ อุปนยฺหนฺติ
เวรํ
เตสํ น สมฺมติ.
ชนเหล่าใด ผูกใจเจ็บว่า
มันด่าเรา มันทุบตีเรา
มันชนะเรา
มันขโมยของเรา
เวรของพวกเขา ไม่มีวันระงับได้.
อกฺโกจฉิ มํ อวธิ มํ
อชินิ
มํ อหาสิ เม
เย จ
ตํ นูปนยฺหนฺติ
เวรํ
เตสูปสมฺมติฯ
ชนเหล่าใด ไม่ผูกใจเจ็บว่า
มันด่าเรา มันทุบตีเรา
มันชนะเรา
มันขโมยของเรา
เวรของพวกเขา ย่อมมีวันระงับได้.
เมื่อจบพระธรรมเทศนา ภิกษุ 100,000
รูปได้บรรลุพระโสดาปัตติผล พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แก่มหาชน
แม้พระติสสเถระที่ว่ายากสอนยากก็ได้กลายเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่ายแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น