วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ยมกวรรค: 04เรื่องนางกาลียักษิณี



04เรื่องนางกาลียักษิณี

เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเชตวัน กรุงสาวัตถี  ทรงปรารภหญิงที่เป็นหมันผู้หนึ่งกับหญิงคู่แข่งของนาง ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 5 นี้

ครั้งหนึ่งมีคฤหบดีผู้หนึ่งมีภรรยาเป็นหมัน  ต่อมาเขาได้นำหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยา  เหตุการณ์โกลาหลเกิดขึ้นเมื่อภรรยาคนอายุมากนำยาแท้งลูกมาให้ภรรยาคนอายุน้อยกิน จนกระทั่งภรรยาอายุน้อยตกเลือดเสียชีวิตไปในที่สุด  ในชาติต่อมา หญิงทั้งสองคนนี้ก็ตามล้างตามผลาญกันอีก โดยหญิงคนหนึ่งเกิดเป็นไก่ ส่วนหญิงอีกคนหนึ่งเกิดเป็นแมว  อีกชาติต่อมาเมื่อหญิงคนหนึ่งเกิดเป็นเนื้อสมัน หญิงอีกคนหนึ่งเกิดเป็นนางเสือดาว  และในที่สุดคนหนึ่งมาเกิดเป็นธิดาของเศรษฐีในกรุงสาวัตถี ส่วนอีกคนหนึ่งมาเกิดเป็นทางยักษิณี  นางยักษิณีตนนี้มีชื่อว่านางกาลียักษิณี ได้ไล่ติดตามหญิงบุตรสาวของเศรษฐีที่อุ้มบุตรอยู่ในวงแขน เมื่อนางผู้ถูกไล่ติดตามนี้ทราบว่าพระศาสดาประทับอยู่กำลังทรงแสดงธรรมอยู่ที่วัดพระเชตวัน จึงวิ่งหนีไปทางนั้นแล้วนำบุตรที่อุ้มมาไปวางลงที่เบื้องบาทของพระศาสดา นางกาลียักษิณีถูกเทวดาผู้รักษาประตูพระเชตวันสกัดไว้ที่ประตูมาไม่ยอมให้เข้าไป  แต่ต่อมาพระศาสดาได้อนุญาตให้นางเข้าไปได้  และทั้งสองคนคือหญิงที่เป็นมนุษย์กับหญิงที่เป็นยักษ์ก็ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระศาสดา  โดยพระศาสดาได้ตรัสเล่าเรื่องที่ทั้งสองเคยล้างผลาญกันมาในในอดีตชาติ ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นภรรยาของสามีคนเดียวกัน เป็นแมวและเป็นแม่ไก่ เป็นเนื้อสมันและเป็นนางเสือดาว  หญิงทั้งสองถูกอบรมสั่งสอนให้เห็นว่าเวรมีแต่จะก่อเวร เวรจะระงับได้ด้วยมิตรภาพ  การเข้าใจและไมตรีเท่านั้น

จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 5 นี้
น หิ เวเรน เวรานิ
สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
อเวเรน จ สมฺมนฺติ
เอส ธมฺโม สนนฺตโนฯ

แต่ไหนแต่ไรมา ในโลกนี้
เวรไม่มีวันระงับด้วยการจองเวร
แต่ระงับได้ด้วยการไม่จองเวร
ข้อนี้เป็นสนาตนธรรม.

เมื่อเทศนาจบลง  นางยักษิณีได้บรรลุพระโสดาบัน และพระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์มากแก่บริษัทที่มาประขุมกัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น