07. เรื่องพระปูติคัตตติสสเถระ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ที่พระเชตวัน
ทรงปรารภพระเถระชื่อ ปูติคัตตติสสเถระ
ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 41 นี้
พระติสสเถระ เมื่อรับพระกัมมัฏฐานจากพระศาสดาแล้ว
ก็ได้ขยันหมั่นเพียรปฏิบัติพระกัมมัฏฐานนั้น และได้เป็นโรคชนิดหนึ่ง
มีอาการเป็นตุ่มพุพองทั่วร่างกาย
ตุ่มนั้นได้ขยายโตขึ้นๆ
แต่แรกเท่าเมล็ดถั่วเขียว โตขึ้นมาหน่อยเท่าเมล็ดถั่วดำ ขยายเท่าเมล็ดกระเบา ขยายเท่าผลมะขามป้อม
และขยายเท่าผลมะตูม จนกระทั่งแตก
ทั้งผ้าสบงและจีวรเลอะเทอะไปด้วยน้ำเหลืองและน้ำหนอง
และทั่วทั้งร่างกายเน่าเฟะ
เพราะฉะนั้นท่านจึงมีชื่อว่า พระปูติคัตตติสสะเถระ
(พระติสสเถระผู้มีกายเน่า)
เมื่อพระศาสดาตรวจดูสัตว์โลกด้วยข่ายคือพระญาณพิเศษของพระองค์
พระเถระนี้ก็ได้มาปรากฏอยู่ในข่ายนั้น
พระศาสดาทรงเห็นศักยภาพที่จะบรรลุพระอรหัตตผลของพระเถระ ทรงดำริว่า “ภิกษุนี้ถูกพวกสัทธิวิหาริกเป็นต้นทอดทิ้งแล้ว
บัดนี้ เธอยกเว้นเราเสีย ก็ไม่มีที่พึ่งอื่น” ดังนั้นพระองค์จึงเสด็จไปสู่โรงไฟที่อยู่ใกล้กับที่ที่พระเถระนอนป่วยอยู่นั้น ทรงล้างหม้อ ใส่น้ำ ยกตั้งบนเตา
เมื่อทรงรอให้น้ำร้อนได้ประทับยืนในโรงไฟนั่นเอง
เมื่อน้ำเดือดแล้วพระองค์ก็ได้ยกหม้อน้ำไปยังเตียงที่พระเถระนั้นนอนอยู่
ในช่วงนี้เองที่บรรดาสัทธิวิหาริกของพระเถระได้พากันมายืนล้อมวงพระเถระแล้วช่วยกันหามพระเถระไปที่โรงไฟ
จากนั้นพระศาสดาก็ได้ทรงรดร่างกายของพระเถระนั้นด้วยน้ำอุ่น ทรงถูร่างกายให้
ขณะที่ทรงอาบน้ำให้พระเถระอยู่นั้น
ทรงรับสั่งให้ให้นำสบงและจีวรของพระเถระไปซักตาก
หลังจากอาบน้ำเสร็จและนำสบงจีวรมาเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว พระเถระก็มีร่างกายสดชื่น มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว นอนอยู่บนเตียง พระศาสดาไปประทับยืนอยู่เหนือหัวเตียงของพระเถระ
ตรัสกะพระเถระว่า ร่างกายเมื่อปราศจากวิญญาณ
ก็จะไร้ประโยชน์นอนอยู่บนพื้นดิน เหมือนท่อนไม้
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 41
ว่า
อจิรํ
วตยัง กาโย
ปฐวึ อธิเสสฺสติ
ฉุฑโฑ อเปตวิญญาโณ
นิรตฺถํ ว กลิงครํ ฯ
อีกไม่นานหนอ
ร่างกายนี้
จักนอนทับถมแผ่นดิน
ปราศจากวิญญาณ ถูกทอดทิ้งไว้
ราวกับท่อนไม้ ไม่มีประโยชน์.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง
พระติสสเถระก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ส่วนชนเป็นอันมากก็ได้บรรลุพระอริยผล
มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น ฝ่ายพระเถระบรรลุพระอรหัตผลแล้วก็ปรินิพพานในเวลาต่อมา พระศาสดาโปรดให้ทำการฌาปนกิจศพของท่าน
ทรงเก็บอัฐิธาตุแล้วโปรดให้ทำเจดีย์ไว้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น