08. เรื่องนันทโคปาลกะ
พระศาสดา
เมื่อประทับอยู่ในโกศลชนบท
ทรงปรารภนายโคบาลชื่อนันทะ ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 42
นี้
นายนันทะเป็นนายโคบาล(เลี้ยงโค)
ซึ่งคอยเลี้ยงโคให้แก่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
แม้ว่าเขาจะเป็นแค่คนเลี้ยงโคแต่เขาก็เป็นคนมีทรัพย์มาก
ในบางครั้งเขาจะไปที่บ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐี พบพระศาสดาและได้ฟังธรรมของพระองค์ เขาได้ทูลนิมนต์พระศาสดาให้เสด็จไปที่บ้าน
แต่พระศาสนายังมิได้เสด็จไปในทันที โดยตรัสว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเสด็จไป
ต่อมาขณะที่พระศาสดาทรงจาริกไปกับพระภิกษุสงฆ์นั้นก็ได้ทรงแวะไปเยือนนันทะที่บ้านของเขา โดยทรงทราบว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้รับคำสอนที่เหมาะสม
นันทะได้ถวายบังคมพระศาสดาและได้ทำการต้อนรับพระศสดาและภิกษุสงฆ์ทั้งหลายด้วยความเคารพ
ได้นำนมโคและผลิตผลจากนมโคตรรวมทั้งภัตตาหารที่ดีๆมาถวายเป็นเวลา 7
วัน ในวันที่ 7
นั้นหลังจากที่ได้ฟังพระสัทธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว นันทะได้บรรลุพระโสดาปัตติผล
เมื่อพระศาสดาเสด็จกลับในวันนั้น
นันทะได้ถือบาตรตามเสด็จพระศาสดาเป็นระยะทางไกลพอสมควร
แล้วก็ถวายบังคมลาและเดินทางกลับบ้าน
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 42 ว่า
ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา
เวรี วา ปน เวรินํ
มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ
ปาปิโย นํ ตโต กเรฯ
จิตที่ตั้งไว้ผิด
ย่อมสร้างความเสียหายให้ยิ่งกว่า
ที่โจรหรือศัตรู
จะพึงทำให้กันเสียอีก.
เมื่อพระสัทธรรมเทศนาจบลง ชนเป็นอันมาก บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น พระสัทธรรมเทศนามีประโยชน์แก่มหาชน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น