วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อัปปมาทวรรค:08.เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง



08.เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง  ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 31 นี้

มีภิกษุรูปหนึ่ง หลังจากรับพระกัมมัฏฐานจากพระศาสดาแล้ว ก็ได้เข้าไปปฏิบัติพระกัมมัฏฐานในป่า  แม้ว่าท่านจะได้ทำความพยายามอย่างเต็มที่แล้ว  ก็มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติพระกัมมัฏฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ด้วยเหตุนี้ท่านจึงมีความเก็บกดอยู่ภายใน  ท่านมีความคิดว่าควรที่ท่านจะกลับไปขอคำแนะนำพิเศษมากยิ่งขึ้นจากพระศาสดา  จึงได้ออกเดินทางจะไปพระเชตวัน ในระหว่างทางท่านเห็นไฟป่าลุกไหม้อยู่ ก็ได้วิ่งขึ้นบนภูเขามองลงมาดูไฟป่านั้นจากที่สูง  ขณะที่ไฟฟ้ากำลังไหม้ลุกลามอยู่นั้น ท่านก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ไฟป่านี้ไหม้เชื้อเพลิงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งใหญ่และน้อยฉันใด อริยมรรคญาณก็จะไหม้สังโยชน์ทุกอย่างทั้งใหญ่และน้อย ฉันนั้น

พระศาสดา ประทับนั่งในพระคันธกุฎีที่วัดพระเชตวัน ทรงทราบความคิดของพระภิกษุรูปนั้น จึงแผ่พระรัศมีไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าของท่าน  ดูก่อนภิกษุพระศาสดาตรัส เธอคิดถูกต้องแล้ว จงคิดเช่นนั้นต่อไปเถิด  สัตว์ทั้งหลายพึงเผาสังโยชน์เหล่านั้นด้วยไฟคือมรรคญาณ

จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 31 ว่า

อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ
ปมาเท ภยทสฺสี วา
สญฺโญชนํ อณุ ถูลํ
ฑหํ อคฺคี ว คจฺฉติ
นิพฺพานสฺเสว สันฺติเกฯ

ภิกษุยินดีในความไม่ประมาท
เห็นโทษในความประมาท
จะเผาสังโยชน์(กิเลส) ทั้งหยาบและละเอียดทั้งหมด
เหมือนไฟเผาเชื้อเพลิงมากและน้อยไป.

เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา  ภิกษุรูปนั้นได้บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย  ได้เหาะมาทางอากาศมา  มาชมเชยพระสรีระของพระตถาคต  ซึ่งมีพรรณดุจทองคำ  ถวายบังคม แล้วหลีกไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น