07. เรื่องท้าวสักกะ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในวัดกูฎาคารศาลา ทรงปรารภท้าวสักกเทวราช ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 30 นี้
ครั้งหนึ่งเจ้าลิจฉวีพระนามว่า มหาลิ
ได้เสด็จมาฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา
พระศาสดาได้ทรงแสดง สักกปัณหสูตร
โดยที่พระศาสดาทรงกล่าวถึงท้าวสักกะอย่างกระจ่างชัดมาก
ดังนั้นเจ้ามหาลิจึงดำริว่าพระศาสดาจะต้องเคยพบกับท้าวสักกะด้วยพระองค์เองมาแน่ๆ
แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจเจ้ามหาลิจึงได้ทูลถามเรื่องนี้กับพระศาสดา
ซึ่งพระศาสดาได้ตรัสตอบว่า “มหาลิ
อาตมภาพรู้จักท้าวสักกะ
อาตมภาพยังรู้ด้วยว่าธรรมะอะไรทำให้ท้าวเธอเป็นท้าวสักกะ” จากนั้นพระศาสดาได้ทรงเล่าว่าท้าวสักกะผู้เป็นจอมแห่งเทพทั้งหลายนี้ในอดีตชาติเมื่อครั้งเป็นมนุษย์มีชื่อว่า
มฆมาณพ อยู่ในหมู่บ้านชื่ออจาละในแคว้นมคธ
มฆมาณพนี้กับสหายอีก 32 คนได้ช่วยกันก่อสร้างถนนหนทาง
และที่พักริมทาง
สำหรับตัวมฆมาณพเองนั้นได้ปฏิบัติวัตรบท 7
ประการ ตลอดชีวิต คือ 1. เลี้ยงดูบิดามารดา
2. ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในตระกูล 3. พูดคำสุภาพอ่อนหวาน
4. ไม่พูดส่อเสียด 5. ชอบเผื่อแผ่แบ่งปัน
ไม่ตระหนี่ 6. มีวาจาสัตย์ และ 7. ไม่โกรธ
ระงับความโกรธได้
เพราะกระทำคุณงามความดีและปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเหล่านี้ในชาตินั้นทำให้มฆมาณพได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกะ
เจ้าแห่งเทวดาทั้งหลาย
จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 30
ว่า
อปฺปมาเทน มฆวา
เทวานํ เสฏฺฐตํ คโต
อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ
อปฺปมาทํ ครหิโต สทาฯ
ท้าวมัฆวานถึงความเป็นใหญ่แห่งหมู่เทพ
เพราะความไม่ประมาท(ในการทำความดี)
บัณฑิตจึงสรรเสริญความไม่ประมาท
และติเตียนความประมาททุกเมื่อ.
เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา
เจ้าลิจฉวีนามว่ามหาลิ
ได้บรรลุพระโสดาปัตติผล
ส่วนบริษัทที่มาประชุมกันเป็นอันมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย
มีพระโสดาบันเป็นต้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น